“ตามใจเจ้า” เห็นได้ชัดว่าซ่งจิ่งเซินเป็นพวกหลงน้องสาว ไม่ว่าน้องสาวจะพูดอะไร เขาก็เห็นดีเห็นงามไปหมด
เวลานั้น ซ่งรั่วเจินพลันสัมผัสได้ว่าตรงหัวมุมข้างหน้ามีสายตาคู่หนึ่งจับจ้องมาทางพวกตน จึงมองไปทางนั้นโดยสัญชาตญาณ
ฝ่ายตรงข้ามเป็นบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่ง พบว่าซ่งรั่วเจินสังเกตเห็นแล้วก็ไม่หลบ แต่กลับยิ้มพลางพยักให้น้อยๆ
“พี่สี่ นั่นใครหรือ?”
ซ่งจิ่งเซินมองตามทิศทางสายตาของซ่งรั่วเจินไปก็พบว่าตอนนี้บุรุษผู้นั้นหันหลังไปแล้ว เพียงมองจากเงาหลังดูไม่ออกว่าเป็นใคร
“ไม่รู้สิ ข้าไม่เห็นว่าหน้าตาเป็นอย่างไร”
“นั่นคือคนตระกูลกู้” ฉู่จวินถิงอธิบาย
ซ่งรั่วเจินอึ้งไป “ตระกูลกู้? ครอบครัวฝั่งแม่ของฉินฮูหยิน?”
“ใช่แล้ว ร้านค้าบนถนนเส้นนี้เดิมเป็นสินเดิมที่ตระกูลกู้มอบให้ฉินฮูหยินในตอนนั้น ได้ยินว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็มีคนตระกูลกู้ช่วยช่วยดูแลจัดการ แต่ตอนนี้ร้านค้าเป็นของพวกเจ้าแล้ว คิดว่าคงมาเห็นโดยบังเอิญ”
ซ่งจิ่งเซินได้ยินอย่างนั้นก็อดกังวลใจไม่ได้ “พวกเขาคงไม่คิดว่าพวกเราฮุบร้านค้านี้มาแล้วไม่พอใจพวกเราหรอกนะ?”
ภูมิหลังของตระกูลกู้ไม่ธรรมดาเลย แต่ไม่ได้มีการไปมาหาสู่กับตระกูลซ่งของพวกเขามาแต่ไหนแต่ไร ทว่ายามนี้ได้ครอบครองร้านค้าบนถนนทั้งสายของอีกฝ่าย กอปรกับตอนนี้ความขัดแย้งระหว่างพวกเขากับตระกูลฉินนับวันก็ยิ่งเลวร้ายลง...
ถ้าตระกูลกู้เข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องราวจะต้องยุ่งยากกว่าเดิมแน่นอน
ซ่งรั่วเจินคิดถึงผู้ชายที่เห็นเมื่อครู่ เมื่อฉู่จวินถิงพูดเช่นนี้ ในใจก็พอจะคาดเดาอะไรได้
ความจริง...ก่อนหน้านี้นางนึกสงสัยเรื่องหนึ่งมาโดยตลอด ตอนนี้สามารถสืบสวนตามทิศทางนี้ได้แล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง