ซ่งจิ่งเซินที่อยู่ข้างๆ มองภาพนี้อย่างเงียบๆ ในใจรู้สึกตกตะลึงอย่างถึงที่สุด ท่านอ๋องช่างดีต่อน้องหญิงห้าจริงๆ!
ยังไม่ทันเอ่ยปาก เขาก็ถามออกมาเองแล้ว นอกจากนี้ ดูจากท่าทางรู้ใจกันเช่นนั้นก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ในช่วงเวลาสั้นๆ เรียกได้ว่าเป็นคู่สวรรค์สรรค์สร้างโดยแท้!
“หลายปีมานี้ ไม่ว่าจะก่อเรื่องอะไรมา ท่านน้าก็มักหาวิธีมาขอให้ท่านแม่ช่วยสะสาง แต่ตอนที่บ้านเกิดเรื่อง ท่านแม่อยากไปปรึกษานางกลับไม่เห็นแม้แต่เงา”
“ยามนี้ถ้าจะกำจัดเรื่องยุ่งยากนี้ไปให้พ้นก็มีวิธีเดียว...”
ซ่งรั่วเจินเอ่ยปากช้าๆ มองไปทางบุรุษตรงหน้า มุมปากวาดโค้งขึ้นน้อยๆ
ฉู่จวินถิงเลิกคิ้ว แลดูอ่อนใจอยู่บ้าง “เห็นที ข้าถูกกำหนดไว้แล้วว่าต้องรับบทผู้ร้ายสินะ?”
ซ่งรั่วเจินพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ถ้าท่านอ๋องรู้สึกว่ายุ่งยาก ข้าก็สามารถไปขอความช่วยเหลือจากซื่อจื่อน้อย คิดว่าเรื่องเล็กน้อยนี้ เขาน่าจะยินดีช่วยเหลือ”
“ไม่จำเป็น ไยต้องรบกวนคนอื่นด้วย?” ฉู่จวินถิงกล่าว
เห็นดังนั้น รอยยิ้มก็อาบย้อมแววตาซ่งรั่วเจิน นางหันไปมองซ่งจิ่งเซิน “พี่สี่ ประเดี๋ยวต้องแสดงให้สมจริงหน่อยนะเจ้าคะ”
ซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ ตบอกรับรอง “วางใจเถอะ!”
ด้วยเหตุนี้ ขณะที่หลิ่วเฟยเยี่ยนกำลังรบเร้าให้หลิ่วหรูเยียนช่วยสะสางปัญหาให้ ทันใดนั้นก็เห็นแม่นมรีบร้อนมารายงานว่า
“ฮูหยิน แย่แล้วเจ้าค่ะ คุณหนูกับคุณชายสี่ล่วงเกินท่านอ๋อง ทำให้ท่านอ๋องเดือดดาลเป็นการใหญ่เลยเจ้าค่ะ!”
ใบหน้าหลิ่วหรูเยียนพลันเปลี่ยนสี “อะไรนะ? เกิดอะไรขึ้น?”
“บ่าวก็ไม่รู้ชัดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เพียงรู้ว่าวันนี้คุณหนูกับคุณชายออกไปดูร้าน แต่ขากลับท่านอ๋องมาด้วยกัน ยังมีท่าทางโมโหเดือดดาลอย่างหนัก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง