“เรียนฮูหยินรอง นั่นคือธูปหอมสงบใจเจ้าค่ะ แม่นางซ่งบอกว่าฮูหยินไม่ได้นอนหลับพักผ่อนดี ๆ มานานแล้ว ธูปหอมสงบใจสามารถระงับความฟุ้งซ่าน ช่วยให้จิตใจสงบ มีสรรพคุณช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเจ้าค่ะ”
สวี่ชิงเหมยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง สีหน้าของหลินอิ๋งเฉียวกับซ่งรั่วเจินในตอนนั้นไม่เหมือนว่าจะพูดเรื่องเรียบง่ายเช่นนี้ แต่จนใจที่ทั้งสองเดินไปไกลเกินไป นางจึงไม่ได้ยินสักนิด ความรู้สึกกระสับกระส่ายไม่สบายใจกลับรุนแรงมากขึ้นทุกที สังหรณ์ใจเหมือนจะมีเรื่องเกิดขึ้น
ฮูหยินผู้เฒ่าต่งเข้าใจแล้ว “ดูเจ้าสิ ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ช่วงนี้อิ๋งเฉียวเหน็ดเหนื่อยเกินไป ได้นอนหลับดี ๆ สักตื่นก็ดีเหมือนกัน”
“ท่านแม่ ข้าคิดว่าเรื่องราวไม่น่าเรียบง่ายถึงเพียงนั้น ธูปหอมสงบใจก้านเดียวกลับเรียกเงินตั้งหนึ่งหมื่นตำลึง แม่นางซ่งจะโลภเกินไปหรือไม่? พี่สะใภ้เป็นคนฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร แล้วจะถูกหลอกลวงง่าย ๆ ได้อย่างไรเจ้าคะ?”
“หนึ่งหมื่นตำลึง?” ฮูหยินผู้เฒ่าต่งขมวดคิ้ว เงินมากมายถึงเพียงนี้บอกจะให้ก็ให้ ออกจะมักง่ายเกินไปจริง ๆ นั่นล่ะ แต่เมื่อคิดถึงว่าหลานชายหายตัวไป ตนเองก็ผิดต่อสะใภ้ใหญ่ผู้นี้ ยังจะไปตำหนินางอีกว่าใช้เงินไปโดยเปล่าประโยชน์เช่นนั้นหรือ?
“ช่างเถิด ขอแค่อิ๋งเฉียวไม่เป็นไรก็พอแล้ว”
ฮูหยินผู้เฒ่าต่งโบกไม้โบกมือ ขณะเตรียมจะจากไปก็ได้ยินเสียงกรีดร้องที่แสนคุ้นเคย
“กรี๊ด!”
เสียงกรีดร้องแหลมแฝงความอาดูรสุดแสน ฟังดูเจ็บปวดรวดร้าวในยามราตรีเช่นนี้ยิ่งนัก
“เกิดเรื่องแล้ว!” แววตาสวี่ชิงเหมยเปลี่ยนไปโดยพลัน “ท่านแม่ ท่านเห็นหรือยังเจ้าคะว่าข้าพูดไม่ผิด มีปัญหาจริง ๆ ด้วย!”
คราวนี้ฮูหยินผู้เฒ่าต่งไม่สนใจอะไรอีกแล้ว คนทั้งกลุ่มรีบเข้าไปด้านในทันที
หลินอิ๋งเฉียวใบหน้าซีดเผือด เหงื่อเย็นผุดพรายทั่วร่าง ดวงตาทั้งคู่ของนางแดงก่ำ มองความว่างเปล่ารอบด้าน ทั้งที่ครู่ก่อนเป๋ยอวี่ยังอยู่ตรงหน้านางแท้ ๆ แต่ตอนนี้...นางไม่มีโอกาสได้เจอเป๋ยอวี่อีกแล้ว
“เป๋ยอวี่ เป๋ยอวี่ เจ้าอย่าไปจากแม่”
“แม่ไม่ดีเอง แม่ไม่ได้ปกป้องเจ้าให้ดี!”
เมื่อฮูหยินผู้เฒ่าต่งและสวี่ชิงเหมยเข้ามาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องเจียนขาดใจของหลินอิ๋งเฉียว ท่าทางจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนั้น ไม่ว่าใครได้เห็นก็ล้วนปวดใจแทนนาง
“อิ๋งเฉียว เจ้าทำอะไรน่ะ? ปล่อยชิงเหมยเร็วเข้า นางเป็นน้องสะใภ้ของเจ้านะ!” ฮูหยินผู้เฒ่าต่งกล่าวอย่างร้อนใจ
สาวใช้แม่นมทุกคนล้วนเข้ามาช่วยแยกคนทั้งสองออกจากกัน หลินอิ๋งเฉียวกลับตวาดเสียงดังด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ใครก็ห้ามขยับ!”
“ไปเชิญนายท่านใหญ่กลับมา”
เมื่อต่งหานโจวรีบร้อนเข้ามาหลังได้ยินเสียงดังเอะอะจากในเรือน ก็เห็นภรรยาที่วางตัวดีมีมารยาทมาตลอดราวกับเสียสติไปแล้ว “ฮูหยิน เกิดอะไรขึ้น?”
“ท่านพี่ เป๋ยอวี่มาเข้าฝันข้า เขาบอกว่าเขาถูกสวี่ชิงเหมยฆ่าเจ้าค่ะ!”
หลินอิ๋งเฉียวดวงตาแดงก่ำ ร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่กลับไม่ยอมคลายมือที่บีบคอสวี่ชิงเหมย “เป๋ยอวี่ช่างน่าสงสารนัก เขายังเด็กปานนั้น แต่กลับถูกอาสะใภ้ที่ไว้ใจที่สุดฆ่าตาย เขาต้องเจ็บช้ำใจแค่ไหนถึงได้มาเข้าฝันข้า!”
“ฮูหยิน มันเป็นแค่ความฝันเท่านั้น เจ้าทุกข์ใจมากเกินไปจนฝันร้าย น้องสะใภ้ดีกับเป๋ยอวี่มาตลอด จะทำร้ายเขาได้อย่างไร?” ต่งหานโจวโน้มน้าวจากใจจริง “เจ้าปล่อยมือก่อน พวกเรามีอะไรค่อยพูดค่อยจากันดีกว่า”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...