ใครจะไปคิดว่าจู่ๆ เรื่องราวจะเกิดพลิกผันได้ถึงเพียงนี้?
“นี่เป็นเรื่องของข้า เจ้าจะถามไปไย? หากไม่มีเหตุธุระใดเจ้าก็กลับไปเสียเถอะ”
ถังเสวี่ยหนิงมีน้ำเสียงเย็นชา ตั้งแต่เกิดเรื่องขายหน้าในจวนเซียงอ๋องเมื่อครานั้น สองวันมานี้นางก็ไม่ได้ออกจากจวนไปพบเจอผู้ใดอีกเลย ด้วยกลัวจะถูกหัวเราะเยาะ
ตอนนี้ที่เถียนเจียวเจียวถ่อมาหาถึงที่เพื่อถามก็เหมือนจะมาซ้ำเติมกันเสียมากกว่า
เถียนเจียวเจียวมีความคิดเยาะเย้ยอยู่บ้างในจิตใจ ก่อนหน้านี้ได้รู้ว่าถังเสวี่ยหนิงมีวาสนาที่ดีเช่นนั้นจะบอกว่านางไม่อิจฉาก็จะเป็นการโกหก ทว่าบัดนี้เมื่อหมั้นหมายสมรสถูกยกเลิกไปแล้ว ในฐานะเพื่อนนางก็รู้สึกเห็นใจอยู่เช่นกัน
“ข้าย่อมต้องเป็นห่วงเจ้าอยู่แล้วสิ เรื่องที่เกิดในจวนเซียงอ๋องข้าก็ได้ยินมาหมดแล้ว เรื่องถอนหมั้นนี้จะอย่างไรก็คงไม่แคล้วเกี่ยวข้องกับซ่งรั่วเจินเป็นแน่”
“ก่อนนี้พวกเราล้วนประเมินนางต่ำจนเกินไป เดิมทีคิดว่าเมื่อนางถูกถอนหมั้นหมายตอนอายุไม่น้อยแล้วจะต้องไร้หนทางสู้รบปรบมือใดได้เป็นแน่ นึกไม่ถึงว่านางจะมากเล่ห์ได้ถึงเพียงนี้!”
เถียนเจียวเจียวพูดด้วยสีหน้ารังเกียจเดียดฉันท์ “ข้าได้ยินมาว่าไม่เพียงฉู่อ๋องฝ่าบาทเท่านั้นที่ปฏิบัติต่อนางพิเศษกว่าผู้ใด กระทั่ง...กระทั่งคุณชายสวีก็ยังมีใจชอบพอนาง เจ้าคิดสิ คนเช่นนางน่ะหรือ จะกับใครก็ไม่คู่ควรกับเขาทั้งนั้น!"
ถังเสวี่ยหนิงฟังคำแล้ว แม้ในใจจะรู้สึกเจ็บอยู่บ้าง แต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้ “เจ้าพูดจริงหรือ?”
“จริงแท้แน่นอน ซ่งรั่วเจินมิได้ช่วยสวีฮูหยินตามหาบุตรสาวที่หายไปจนเจอหรอกหรือ?”
“ตั้งแต่นั้นมาสกุลสวีก็ดีกับนางเป็นยิ่ง นางจึงได้ฉวยโอกาสยั่วยวนคุณชายสวี ทำเขาใหลหลงเสียจนหัวปักหัวปำอย่างไรเล่า!”
เถียนเจียวเจียวกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “เจ้ารู้จักเหอเซียงหนิงหรือไม่? บัดนี้นางถูกวงสกุลขับไล่ อีกทั้งตัดขาดสัมพันธ์ ต้นเหตุก็เพราะนางมีใจชอบพอคุณชายสวี จึงได้ไม่อยากให้คุณชายสวีถูกหลอกลวง”
“ใครจะไปคิดว่าซ่งรั่วเจินจะเหี้ยมโหดได้ถึงเพียงนั้น ทำเสียจนนางต้องตกที่นั่งลำบากเช่นทุกวันนี้!”
“ข้าได้ยินเรื่องนี้เข้าก็เลยอยากมาเตือนเจ้าเอาไว้อย่างไรเล่า ว่าจะต้องระวังตัวเอาไว้ให้ดี!”
นัยน์ตาของถังเสวี่ยหนิงฉายแววตื่นเต้นยินดีอย่างไม่อาจซ่อนเร้น หากที่ว่ามาล้วนเป็นความจริง นั่นจะมิเป็นการถือไพ่ใบสำคัญที่จะตัดสินชีวิตของซ่งรั่วเจินได้หรอกหรือ?
ขอเพียงฉู่อ๋องได้รู้ทั้งหมดทั้งมวลที่นางได้ทำลงไป ย่อมจะต้องรังเกียจเดียดฉันท์นางมากเป็นแน่ เช่นนั้นเรื่องแต่งงานของนางก็ยังพอมีหวังแล้ว!
“หากทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องจริง เหตุใดเหอเซียงหนิงจึงมิพูดออกไปตามตรงเลยเล่า?” ถังเสวี่ยหนิงเอ่ยถาม
เถียนเจียวเจียวถอนหายใจ “เหอเซียงหนิงบอกว่าเมื่อนางได้สติฟื้นตื่นก็ตื่นตกใจเสียจนทำอะไรไม่ถูก คนในครอบครัวต่างก็รังเกียจเสียจนทอดทิ้งนาง ตัดขาดความสัมพันธ์กับนางไปจนสิ้น”
“บัดนี้เมื่อนึกขึ้นมา นางก็อดรู้สึกเสียใจเสียดายมิได้ หากมีผู้ใดยื่นมือเข้าช่วยนางแล้วเล่าก็นางคงไม่ถึงขั้นต้องตกมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ เสวี่ยหนิง บิดาของเจ้าเป็นถึงอัครเสนาบดี ไยไม่ลองช่วยนางดูหน่อยเล่า?”

ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่การเติมเงินใช้เป็นเพียงบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น...