ฉู่จวินถิงสืบเท้าขึ้นมาหนึ่งก้าว ระยะห่างระหว่างทั้งคู่ที่ใกล้กันอยู่แล้วก็ใกล้กันมากยิ่งขึ้น
ครู่ต่อมาซ่งรั่วเจินขยับถอยหลังหนึ่งก้าว ร่างกายแนบติดต้นไม้ทางข้างหลังโดยไม่รู้ตัว ศีรษะกลับกระแทกเข้ากับฝ่ามือนุ่มของฝ่ายชาย
เขากลัวศีรษะนางกระแทก ดังนั้นจึงวางฝ่ามือไว้ข้างหลังก่อนล่วงหน้า
กลิ่นอายของฝ่ายชายปกคลุมนางไว้ในทันใด แสงแดดจ้าถูกเขาบดบังไว้ ซ่อนซ่งรั่วเจินไว้ใต้เงามืดผืนหนึ่ง
ครู่ต่อมานางเงยหน้า ใบหน้าหล่อเหลาของฝ่ายชายใกล้เพียงแค่เอื้อม ทำให้นางกลั้นหายใจ กลับมองเห็นดวงตาทอประกายระยับของฝ่ายชาย เจิดจ้ายิ่งกว่าแสงแดดเสียอีก
“อะ...อะไร?”
ฉู่จวินถึงเห็นดวงตากลมโตของฝ่ายหญิง กลีบปากแดงเผยอน้อยๆ ใบหน้าเรียวเล็กงดงามว้าวุ่นไม่รู้ต้องรับมือเยี่ยงไร สายตาแทบละลายกลายเป็นสายน้ำ
“แผนของเจ้า...กำลังคิดเพื่อข้า”
ฉู่จวินถิงหัวเราะเบาๆ ทีหนึ่ง ไม่ต้องถามอีก ก็รู้คำตอบแล้ว
ซ่งรั่วเจินได้ยินเสียงหัวเราะแผ่วเบามีความสุขดังขึ้นในโสตก็ว้าวุ่น ยื่นมือออกไปดันฉู่จวินถิงเล็กน้อย ครู่ต่อมากวาดตามอง
“วางใจเถอะ เมื่อครู่ข้าสำรวจมาก่อนแล้ว รอบข้างไม่มีคนอื่น” ฉู่จวินถิงอธิบาย
ซ่งรั่วเจินถอนหายใจโล่งอก พูดว่า “ท่านช่วยหม่อมฉันไว้หลายครั้ง หม่อมฉันไม่สามารถตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นได้”
จากนั้น ฉู่จวินถิงกลับไม่ใส่ใจ วันนี้เขาสามารถยืนยันได้เรื่องหนึ่งแล้ว
แม่นางตรงหน้าไม่ใช่ไม่มีความรู้สึกอะไรต่อเขา
แม้ว่าความรักในตอนนี้ยังไม่ลึกซึ้งมากเพียงพอ แต่เขามีความอดทนมากเพียงพอ รอคอยช้าๆ สักวันหนึ่งรอจนกระทั่งนางแน่ใจในความรู้สึกของตน
“อุปนิสัยของเสด็จพี่ใหญ่อ่อนโยน แม้ว่าพวกเรามิได้เกิดจากมารดาคนเดียวกัน แต่หลายปีมานี้เขาดูแลข้ามาโดยตลอด”
“ครั้นยังเยาว์ข้าเคยถูกคนลอบทำร้าย ไม่ทันระวังตกน้ำไป เป็นเขาช่วยข้าไว้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง