“คารวะเซียวอ๋อง”
ซ่งรั่วเจินทำความเคารพ ใบหน้างดงามประดับยิ้มน้อย กลับสะท้อนความห่างเหิน
“ไม่ขอปิดบัง วันนี้หม่อมฉันมาพบเซียวอ๋อง เพราะต้องการมอบคำทำนายให้องค์ชาย”
ได้ยินดังนั้น ฉู่อี้ชวนเก็บธนูในมือ พลิกตัวลงจากหลังม้า คล้ายกำลังตื่นเต้น
“ก่อนหน้านี้ข้าเคยได้ยินข่าวว่าศาสตร์ลี้ลับของแม่นางซ่งยอดเยี่ยมมาก หากทำนายออกมา ก็จะสามารถรู้ผลได้ แต่ยังไม่เคยเห็นมาก่อน
คิดไม่ถึงวันนี้จะมาส่งมอบคำทำนายให้ข้า ไม่รู้ว่าทำนายอะไรได้เล่า?”
“เซียวอ๋อง โปรดอภัยที่หม่อมฉันพูดอย่างตรงไปตรงมา วันนี้จุดอิ้นถังของท่านดำมืด จะต้องประสบโชคร้ายเพคะ” ซ่งรั่วเจินพูดตรงประเด็น
เพียงถ้อยคำนี้พูดออกไป สีหน้าฉู่อี้ชวนยิ่งดำทึบทึม
หลายปีมานี้ ไม่มีใครขวัญกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ “เจ้าอยากจะบอกว่าข้าไม่มีวันได้รับคะแนนดีในพิธีล่าสัตว์หรือ?”
“หากเพียงแค่นี้ วันนี้หม่อมฉันก็ไม่ตั้งใจมาแจ้งพระองค์เป็นพิเศษ”
ซ่งรั่วเจินยกมุมปากน้อยๆ เห็นได้ชัดว่ากำลังยิ้ม ยามตกอยู่ภายในสายตาของฉู่อี้ชวนกลับสะท้อนความรู้สึกลึกลับยากเกินหยั่งอย่างบอกไม่ถูก
เปลี่ยนเป็นแม่นางคนอื่นขวัญกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ เขาจะต้องโมโหไปตั้งนานแล้ว แต่ตรงหน้ากลับเป็นซ่งรั่วเจิน เขาคิดว่าแม่นางคนนี้ไม่ธรรมดามาก
“หากเซียวอ๋องเชื่อหม่อมฉัน อีกครึ่งชั่วยามก็มุ่งหน้าไปที่ป่าทางทิศใต้”
“หากไม่ไป ทุกอย่างของท่านอ๋องจะเปลี่ยนไป ยิ่งไปกว่านั้นจะไม่มีวันกลับมารุ่งโรจน์ได้อีก”
รูม่านตาของฉู่อี้ชวนหดลง ภายในสายตาเปี่ยมความรู้สึกเหลือจะเชื่อ เรื่องใดสำคัญมากถึงเพียงนี้ ตัดอนาคตของเขาไปได้ทั้งหมด?
“แม่นางซ่ง เจ้าคิดว่าข้าถูกทำให้ตกใจกระนั้น? อยู่ดีๆ ก็มากล่าวถ้อยคำนี้โดยไร้สาเหตุแล้ว ยังคิดให้ข้าทำตามคำพูดเจ้า ใช่หรือไม่ว่าไร้สาระเกินไป?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง