เขตล่าสัตว์ของเชื้อพระวงศ์ตกอยู่ในความเงียบอย่างแปลกประหลาด ทั้งๆ ที่มีคนมากมายถึงเพียงนี้ แต่สายตายามทุกคนสบมองซ่งรั่วเจิน กลับรู้สึกใจสั่นอย่างไร้สาเหตุ
ฮองเฮาเห็นภาพนี้อยู่ภายในสายตา ท่าทีรับมืออย่างสุขุมของซ่งรั่วเจินทำให้นางเปลี่ยนความคิด
ไม่มีท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เหมือนสตรีเกิดในตระกูลเล็กๆ เผชิญหน้ากับความสงสัยโดยไม่ลนลาน ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถชี้จุดปัญหาได้อย่างตรงประเด็น
เพียงแต่สำหรับเรื่องคำสาบานทำนองนี้กลับไม่น่ากลัวมากนัก กระนั้นเพียงออกจากปากแม่นางคนนี้ ถึงขั้นทำให้ทุกคนตกตะลึงได้
ทุกคนที่นี่ล้วนนึกถึงความสามารถด้านศาสตร์ลี้ลับของซ่งรั่วเจิน โดยเฉพาะหลังจุดกระดาษเขียนยันต์แล้ว รู้สึกลึกลับมากยิ่งขึ้น ไม่กล้าพูดเหลวไหลส่งเดชอีก
ถังเสวี่ยหนิงเห็นคนเหล่านั้นกล้าๆ กลัวๆ ไม่กล้าพูด เอ่ยปากอย่างอดไม่ได้ “เดิมทีพวกเจ้าก็ไม่มีเรื่องให้ต้องละอายใจอยู่แล้ว ยังกังวลอะไรอีกเล่า? รีบพูดออกมาเถอะ!”
อวิ๋นจู๋และเพ่ยอวิ๋นสบตากันแวบหนึ่ง รู้สึกกังวลภายในใจ ไม่มีใครกล้าพูดก่อน
เหอเซียงหนิงกระซิบเร่ง “กลัวอะไร? ก็แค่จงใจข่มขู่พวกเจ้าเท่านั้น หรือพวกเจ้าเชื่อจริง?”
“ทุกวันมีคนสาบานไม่รู้กี่มากน้อย เดิมทีก็ไม่อันตรายอะไร ซ่งรั่วเจินก็แค่แสดงละครตบตาคนไปอย่างนั้น ใครเชื่อยังไม่ใช่คนโง่อีกหรือ?”
ได้ยินดังนั้น พวกอวิ๋นจู๋เองก็คิดว่าเป็นหลักการนี้จริง ตั้งแต่เด็กพวกเขาเองก็สาบานไม่น้อย แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยตกอยู่ในอันตรายมาก่อน
“หากพวกเจ้าทำเรื่องนี้สำเร็จ ผลประโยชน์ก็ต้องเป็นของเจ้า” เหอเซียงหนิงกระซิบ
อวิ๋นจู๋หวั่นไหวอย่างอดไม่ได้ แท้จริงแล้วทีแรกเขาก็ไม่คิดหักหลังคุณหนู อย่างไรเสียหลายปีมานี้คุณหนูก็ดีต่อเขาไม่เลว ทว่าเหอเซียงหนิงให้เขามากเหลือเกิน
แทนที่จะพยายามทำงานหนักอย่างซื่อสัตย์แต่ได้เงินเพียงเล็กน้อย มิสู้ทำงานไร้มโนสำนึกเช่นนี้ ชีวิตในภายภาคหน้าก็จะดีขึ้นแล้ว
“มีอะไรไม่กล้า? เดิมทีคำพูดข้าก็เป็นความจริง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง