เหอเซียงหนิงตัวไร้ประโยชน์คนนี้ถึงขั้นคิดดึงนางมารับเคราะห์ไปด้วย ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้พูดว่าไม่อยากดึงนางออกมา
ถังเสวี่ยหนิงก็ยืนอยู่ทางฝั่งนาง สกุลถังเป็นตระกูลแนวหน้าของเมืองหลวง เดิมทีก็ไม่กลัวสกุลซ่ง ตัวโง่งมคนนี้ใช้ประโยชน์จากสกุลถังเป็นโล่กำบัง ต้องการโยนความผิดมาที่ตน!
“หากไม่ใช่เจ้า ข้าจะตกลำบากถึงขั้นนี้ได้เยี่ยงไร?”
เหอเซียงหนิงไม่ใส่ใจความสัมพันธ์อะไรอีกแล้ว นางย่อมรู้ว่าสกุลถังยอดเยี่ยมกว่าสกุลฉิน ไฉนเลยนางจะกล้าป้ายความผิดให้สกุลถัง?
ต่อให้ทำสำเร็จ ตนเองก็ถูกตัดขาดความสัมพันธ์ไปแล้ว ล่วงเกินสกุลถังยังมีผลดีอะไรกันเล่า?
“เจ้าเกลียดซ่งรั่วเจินมาโดยตลอด เก็บข้าไว้ก็เพื่อใช้เป็นหมากตัวหนึ่งเท่านั้น”
“เดิมทีก็ไม่ต้องตกลำบากถึงขั้นนี้ มุ่งร้ายต่อซ่งรั่วเจินมีอะไรดีต่อข้าเล่า? อย่างไรเสียคุณชายสวีก็ไม่ชอบข้า ปาไข่กระทบหินเช่นนี้ข้ายังไม่กลายเป็นตัวโง่งมอีกหรือ?”
“ทั้งๆ ที่เป็นฝีมือของเจ้า ข้าไม่รู้เรื่องด้วยเลย ข้าคิดไม่ถึงเลยว่าข้าหวังดีรับเจ้าไว้ เจ้าจะเนรคุณปรักปรำข้า!” ฉินซวงซวงพูดอย่างโมโห
ซ่งรั่วเจินมองสองคนตรงหน้าทะเลาะกัน ก่อนหน้านี้รู้สึกแปลกใจที่ฉินซวงซวงเก็บเหอเซียงหนิงเอาไว้ บัดนี้นับว่าเข้าใจกระจ่างแล้ว ยังวางแผนใช้ประโยชน์จากหมากอย่างเหอเซียงหนิงคนนี้นี่เอง
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น น่ากลัวว่าถูกพวกเขาร่วมมือกันปรักปรำจะต้องไม่สามารถโต้แย้งได้แน่ ทว่าคนเผชิญหน้าก็คือนาง นี่คำนวณพลาดไปแล้ว
“รั่วเจิน ฉินซวงซวงคนนี้ไม่มีสมองกระมัง ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้แพ้ไปก็หลายครั้ง ถึงขั้นยังไม่ยอมถอดใจ”
“หากคนสมรู้ร่วมคิดฉลาดสักคนก็ช่างเถอะ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเหอเซียงหนิงเป็นคนโง่ เกิดผลลัพธ์เช่นนี้ก็ไม่แปลกใจอะไร”
อวิ๋นเนี่ยนชูเผยสีหน้ารังเกียจ “เดิมทีนางก็ทำลายการหมั้นของเจ้า นางไม่เพียงไม่สำนึกเลยแม้แต่น้อย ตรงข้ามกันยังหาเรื่องเจ้าไม่หยุดหย่อน ก็ไม่รู้ตกลงไปเอาหน้าตามาจากที่ใด!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง