กัวเยว่หลินเห็นสีหน้าฉินจื้อหย่วนก็รู้ความคิดของเขาแล้ว เป็นสามีภรรยากันมาสามปี มองปราดเดียวก็เห็นความร้อนตัวของเขาทะลุปรุโปร่ง เกรงว่าเด็กคนนี้คงเป็นลูกเขาไม่ผิดแล้ว
ถ้าเป็นแค่ความผิดพลาด ไล่เหอเซียงหนิงไปแล้วขอโทษนางดีๆ ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสกอบกู้คลี่คลาย
แต่ยามนี้ภรรยาเอกอย่างนางยังไม่มีลูก เหอเซียงหนิงกลับตั้งครรภ์แล้ว นี่นับเป็นอะไร?
นางไม่ยอมเด็ดขาด!
“ฉินจื้อหย่วน พวกเราหย่ากัน!”
กัวเยว่หลินเหมือนตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว จ้องมองฉินจื้อหย่วนด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา นางรู้สึกว่าฉินจื้อหย่วนดีต่อนางเหลือเกิน ดังนั้นแม้ว่ามารดาบังเกิดเกล้าของเขาจะไม่อยู่แล้ว ในจวนลูกของแม่เลี้ยงได้รับความโปรดปรานมากกว่า แต่นางก็ไม่เคยตัดพ้อสิ่งใด
ก่อนนี้บิดามารดาก็เคยเกลี้ยกล่อมนาง บอกว่าตระกูลฉินไม่คู่ควรกับนาง แต่นางคิดว่าขอเพียงฉินจื้อหย่วนดีกับนาง สามีภรรยามีน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้วไซร้ จะต้องมีชีวิตที่มีความสุขได้อย่างแน่นอน
จนถึงตอนนี้นางจึงตระหนักว่าคำพูดของบิดามารดาเป็นเรื่องจริง ฉินจื้อหย่วนแค่เสแสร้งแสดงเอาเท่านั้น ทุกอย่างล้วนเป็นเรื่องโกหก!
ในหัวฉินจื้อหย่วนคิดเพียงว่าจะเก็บเด็กคนนี้ไว้ได้อย่างไร จู่ๆ ได้ยินคำพูดของกัวเยว่หลินก็อึ้งไปอย่างอดไม่ได้ แล้วรีบกล่าวว่า
“น้องหญิง มีอะไรก็พูดกันดีๆ เจ้าทำเช่นนี้ทำไม?”
เขาดึงมือกัวเยว่หลินอย่างร้อนใจ พูดเอาใจว่า “เรื่องนี้เป็นความผิดของข้าจริงๆ ข้าดื่มสุราจนเมามายจึงถูกนางยั่วยวนได้สำเร็จ เจ้ายกโทษให้ข้าสักครั้งเถอะนะ”
“ข้ารับรองว่าต่อไปจะไม่มีสัมพันธ์กับเหอเซียงหนิงอีกแล้ว รอจนนางคลอดลูกก็ไล่นางไป ส่วนลูกก็ให้เจ้าเลี้ยงไว้ข้างกาย ดีหรือไม่?”
ความรังเกียจในแววตากัวเยว่หลินยิ่งเข้มข้นกว่าเดิม “ดื่มจนเมามายจึงถูกยั่วยวน? ท่านคิดว่าข้าโง่งั้นรึ?”
“ข้ากลับบ้านเดิมหลายวันขนาดนั้น ท่านกลับไม่มารับข้าเสียที ข้ายังรู้สึกว่าแปลก เกรงว่าตอนนั้นท่านคงมัวแต่คลุกคลีอยู่กับเหอเซียงหนิงจึงไม่อยากรับข้ากลับมาสินะ?”
“ถ้าท่านรู้สึกผิดต่อข้าจริงก็ไม่มีทางมีครั้งที่สอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง