เมื่อพิธีล่าสัตว์สิ้นสุดลง เรื่องวุ่นวายถึงคราวยุติ ซ่งรั่วเจินก็ติดตามพี่ชายของตนเองเตรียมตัวจากไป
“ข้าต้องไปศาลาว่าการซุ่นเทียนก่อนสักรอบ หลังจากนั้นค่อยไปหาเจ้า” ฉู่จวินถิงกล่าว
ซ่งรั่วเจินพยักหน้าน้อยๆ เรื่องนี้วุ่นวายใหญ่โตเพียงนี้ เกรงว่าคนทั้งเมืองหลวงคงกำลังรอดูผลลัพธ์อยู่ ฉู่จวินถิงจำเป็นต้องปิดคดีโดยเร็วที่สุด
อวิ๋นเนี่ยนชูกับเมิ่งชิ่นได้ยินบทสนทนาที่คุ้นเคยปานนี้ระหว่างทั้งคู่ก็หันมาสบตากันโดยสัญชาตญาณ ต่างลอบอมยิ้มอย่างอดไม่อยู่
“หลังจากนั้นค่อยไปหาเจ้า?” ฉู่จวินถิงเพิ่งจากไป อวิ๋นเนี่ยนชูก็ใช้ไหล่กระแซะซ่งรั่วเจิน กลั้นยิ้มเอ่ยว่า “รั่วเจิน เจ้ากับท่านอ๋องสนิทสนมกันถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่ใช่ว่าคบกันแล้วไม่บอกพวกข้าหรอกนะ?”
ความอึดอัดวาบผ่านใบหน้าซ่งรั่วเจิน นางอธิบายว่า “ท่านอ๋องมาหาข้าเพื่อแจ้งบทสรุปของเรื่องนี้กับข้าเท่านั้น”
“รั่วเจิน เจ้าหน้าแดงแล้ว! บอกความจริงมานะ ผู้ชายแบบฉู่อ๋องยังมีสิ่งใดให้ติอีกหรือ?”
“ถ้าข้ามีวาสนาดีเช่นนี้จะต้องตอบรับโดยไม่ลังเลแน่นอน เจ้าลองคิดดูสิถ้าเจ้าได้เป็นชายาของฉู่อ๋อง พวกฉินซวงซวงยังจะกล้ามาหาเรื่องเจ้าอีกงั้นรึ? หลบยังแทบไม่ทันด้วยซ้ำ!”
เมิ่งชิ่นยิ้มเจ้าเล่ห์ ในเมืองหลวงมีแม่นางมากมายเท่าไรที่ชื่นชมหลงใหลฉู่อ๋อง?
ก่อนนี้นางรู้สึกว่าทั้งเมืองหลวงไม่มีใครคู่ควร แต่หลังจากได้รู้จักซ่งรั่วเจิน นางรู้สึกว่าสายตาของฉู่อ๋องดีจริงๆ ซ่งรั่วเจินกับเขาเหมาะสมกันที่สุดแล้ว!
อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้ารัวๆ “ฉู่อ๋องดีต่อเจ้าไม่ใช่ธรรมดาเลยนะ เอาชนะการแข่งขันล่าสัตว์ก็เพื่อมอบของขวัญให้เจ้า เมื่อครู่มีแม่นางมากมายเท่าไรที่อิจฉา!”
“ตอนนั้นข้ายืนอยู่ตรงนั้น เห็นแม่นางข้างๆ กระทืบเท้าด้วยความโมโห บางคนดึงผ้าเช็ดหน้าจนแทบขาด”
“รั่วเจิน เจ้าอย่าลังเลเกินไปเลย ถ้าพลาดไปแล้วจะไม่เสียดายงั้นรึ?”
“พวกเจ้าทำแบบนี้เหมือนถูกฉู่อ๋องซื้อตัวไม่มีผิด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง