หลิ่วหรูเยียนลุกขึ้นยืน มองพวกซ่งรั่วเจินทั้งสามคนแวบหนึ่ง เตรียมก้าวเท้าออกไป
ซ่งรั่วเจินสามคนย่อมลุกขึ้นตั้งแต่มารดาผินมองมาครั้งแรกแล้ว ทุกครั้งได้ฟังท่านน้าเล่นละครอยู่นาน วันนี้พวกเขาไม่ขอฟังแล้ว
สีหน้าหลิ่วเฟยเยี่ยนเปลี่ยนไป “พี่หญิง เหตุใดพวกท่านจะไปแล้วเล่า?”
“ไม่ไปแล้วจะอยู่ทำอะไร? น้องหญิงก็อยู่สนทนากับท่านแม่ดีๆ เถอะ ข้ายังมีธุระอีกมาก บัดนี้ยังไม่รู้ว่าสามีเป็นตายร้ายดีเช่นไร ข้าต้องใส่ใจดูแลครอบครัว วาสนาไม่ดีเหมือนน้องหญิง”
หลิ่วหรูเยียนถอนหายใจ ความอิจฉาและสลดใจเจืออยู่ในน้ำเสียง
มือหลิ่วเฟยเยี่ยนแข็งค้างไป รู้สึกคล้ายถูกหลิ่วหรูเยียนตบนิ่งๆ หนึ่งฉาด
นางพูดว่าสามีดื่มสุราทุกวัน ระหว่างทั้งคู่มีความขัดแย้งกันมากมาย ทว่าหลิ่วหรูเยียนพูดว่าสามีนางยังไม่รู้เป็นหรือตาย เช่นนี้ยังไม่ใช่นางคร่ำครวญทั้งๆ ที่มิได้เจ็บป่วย ชนิดที่ว่ายังสาดเกลือใส่แผลของหลิ่วหรูเยียนด้วยหรือ?
“แต่ไหนแต่ไรมาท่านน้าและน้าเขยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ชวนให้คนอิจฉาโดยแท้ หากท่านพ่อข้ายังอยู่ข้างกายท่านแม่ก็คงดี...” ซ่งรั่วเจินพูดอย่างสลดใจได้ถูกเวลาหนึ่งประโยค
เห็นหลิ่วหรูเยียนเดินออกจากห้องแล้ว ซุนเยียนเอ๋อร์รีบพูด “ท่านแม่ ท่านรีบไปขวางพวกเขาไว้ พลาดโอกาสนี้ไปก็ไม่รู้ว่าครั้งหน้าจะต้องรอถึงยามใด!”
แม้พูดว่าแผนวันนี้ถูกทำให้วุ่นวายไปจนหมด แต่ขอเพียงมีท่านยายอยู่ พวกเขาก็ยังมีความหวังจะได้ร้านไก่ทอด!
“พี่หญิง ข้าขอโทษท่านไปแล้ว ท่านก็ช่วยข้าสักครั้งเถอะ!”
หลิ่วหรูเยียนไล่ตามออกมา พูดอย่างมีเหตุผล “ได้ยินมาว่าระยะนี้การค้าไก่ทอดที่พวกท่านเปิดดีมาก ยกร้านนี้ให้ข้าเถอะ!”
“มีคำกล่าวพูดไว้ได้ดี จับปลาให้มิสู้สอนคนจับปลา หลายปีมานี้ขอความช่วยเหลือจากท่านมาโดยตลอดก็น่ารำคาญ หลังยกร้านนี้ให้พวกเราแล้ว พวกเราก็สามารถทำการค้าดีๆ ได้ ภายภาคหน้าก็ไม่ต้องรบกวนท่านอีก นี่ยังไม่ดีอีกหรือ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง