ขันทีประกาศราชโองการจู่ๆ เห็นหญิงกายเต็มด้วยเลือดผู้หนึ่งพุ่งพรวดเข้ามา มือดึงจับเอาขากางเกงของเขาไว้แน่นก็สะดุ้งตกใจ
“เจ้าเป็นใครกัน?”
“ข้าเป็นมารดาของหลินจือเยว่ กงกง ตระกูลฉินหาใครดีมิได้เลย พวกเขาฆ่าลูกข้าแล้วยังมิพอ ยังคิดจะฆ่าปิดปากข้าอีก!”
“หากท่านมิช่วยข้า วันนี้คงถึงคราวตายของข้าแล้วเป็นแน่!”
ขันทีประกาศราชโองการย่อมรู้จักหลินจือเยว่ดี ก่อนนี้ครั้งที่หลินจือเยว่ยังเป็นหลินโหวเขายังเคยแสดงความยินดีด้วยอยู่เลย ฮูหยินผู้เฒ่าหลินที่ได้เห็นก็ยังมีสง่าราศีล้นเหลือ ทว่าบัดนี้กลับดูแก่ชราลงเป็นสิบปี อีกทั้งบาดแผลศีรษะแตกก็ยังคงมีเลือดไหลอยู่ไม่หยุด!
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?”
“บุตรชายข้าคอยแต่จะห้ามมิให้ฉินซวงซวงทำเรื่องชั่วช้าสามาญ แต่นางหญิงชั่วผู้นั้นราวกับคนบ้าก็มิปาน ทำแต่เรื่องเลวทรามมิมีหยุดหย่อน ทั้งยังลอบคบชู้สู่ชาย!”
“เมื่อบุตรชายข้าเอ่ยปากขอหย่า พวกตระกูลฉินก็บีบบังคับเรา พวกเราเป็นเพียงสามัญชนคนธรรมดาไร้อำนาจ ไหนเลยจะต้านทานพวกเขาได้?”
“ตอนนี้จือเยว่ติดร่างแหถูกเนรเทศยังมิพอ พวกเขายังบีบข้าให้สั่งจือเยว่รับผิดแทนทั้งหมด พอข้าขัดขืนพวกเขาก็คิดจะตีข้าเสียให้ตาย!”
ฮูหยินผู้เฒ่าหลินร่ำไห้ด้วยความสิ้นหวัง สายตาแกมแฝงแววหวาดผวาต่อความอำมหิตของตระกูลฉินอย่างชัดเจน พวกเขาหมายมาดเอาชีวิตนางให้ได้จริงๆ!
ขันทีประกาศราชโองการได้ฟังแล้วจะให้ปล่อยผ่านได้อย่างไร?
โดยเฉพาะเมื่อเห็นหยาดเลือดสดน่าพรั่นพรึ่งของหลินรั่วหลาน ใบหน้าปรากฏรอยตบตีขึ้นชัดเจน กระทั่งนิ้วก้อยก็คล้ายจะถูกทุบตีเสียจนบิดงอผิดธรรมชาติดูน่ากลัวยิ่ง ยังจะมีสิ่งใดให้ต้องสงสัยอีกเล่า?
“แม่ทัพฉิน พวกท่านหาญกล้ากันเกินไปแล้ว!”
ฉินเจิงหน้าถอดสี “กงกง เรื่องราวหาได้เป็นเช่นที่ท่านเห็น”
“เป็นนังชั่วนี่ต่างหากที่คิดจะฆ่าข้า ท่านท่านดูบาดแผลบนตัวข้าเอาเถิด ข้าเองก็บาดเจ็บเช่นกัน!” กู้อวิ๋นเวยรีบร้อนเอ่ย
ขันทีประกาศราชโองการปรายตามองกู้อวิ๋นเวยที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงเสื้อผ้ายับยู่แล้ว ก็พอมองออกว่าก่อนนี้คงมีทะเลาะเบาะแว้งกันมา ทว่าไหนเลยจะเทียบได้กับฮูหยินผู้เฒ่าหลินที่ศีรษะเต็มด้วยเลือดคล้ายจะสิ้นสติได้ทุกเมื่อเล่า?
“เรื่องนี้ข้าจะกราบทูลฝ่าบาทตามจริงแน่นอน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง