เคอหยวนจื่อสามคนเห็นองครักษ์เหล่านี้ออกมาไล่พวกนาง ไม้กระบองนั้นคล้ายเสี้ยววินาทีต่อมาก็จะตีโดนตัวของพวกนางแล้ว ตกใจทำได้เพียงรีบวิ่งหนี
โครม!
เจี่ยงเหวินจิ้งไม่ทันระวังล้มลงไป มือหนึ่งจับพานเหราไว้ตลอด นี่ถึงดึงพานเหราให้ล้มลงไปพร้อมกัน
พานเหราเห็นดังนั้นก็รีบจับเคอหยวนจื่อ ทันใดนั้นทั้งสามคนก็ล้วนล้มอยู่บนพื้น สภาพน่าสงสารอย่างเห็นได้ชัด
เคอหยวนจื่อหันหน้ากลับไปอย่างน้อยใจ รอให้ซ่งจิ่งเซินสงสารเข้ามาประคองนาง
จากนั้น ซ่งจิ่งเซินไม่ทำแม้แต่สนใจ สั่งคนปิดประตูใหญ่
ปัง!
ชั่วขณะประตูใหญ่สกุลซ่งปิดลง ภายในสายตาเคอหยวนจื่อเปี่ยมความตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อว่าซ่งจิ่งเซินที่เชื่อฟังนางมาโดยตลอดจะทำกับนางเช่นนี้!
“หยวนจื่อ งานแต่งระหว่างเจ้าและชวีคั่วจะต้องทำให้คุณชายซ่งรำคาญใจจริงๆ”
“ต่อให้เขาชอบเจ้ามาก ก็ไม่มีชายคนใดสามารถยอมปล่อยให้แม่นางที่ตนชอบหมั้นหมายกับชายอื่นได้หรอกนะ”
เจี่ยงเหวินจิ้งเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน แม้แต่เสียงก็สะท้อนคำตำหนิ หากรู้ตั้งแต่แรก วันนี้นางก็ไม่มาแล้ว!
ยังไม่ต้องพูดว่าถูกด่าโดยเสียเปล่า ยังล้มกลิ้งทีหนึ่ง น่ากลัวว่าหัวเข่าแตกไปแล้ว
พานเหราพยักหน้า “แท้จริงแล้วข้าคิดว่าคุณชายสี่ซ่งดีมาก หล่อเหลากว่าชวีคั่ว ดีต่อเจ้าอีกด้วย ไม่มีคุณชายในเมืองหลวงสามารถใช้จ่ายได้อย่างไร้กังวลเทียบเขาได้”
“พวกเจ้าเข้าใจอะไร? ต่อให้ซ่งจิ่งเซินมีเงิน ก็เป็นแค่พ่อค้าร่ำรวย ไฉนเลยจะเทียบกับขุนนางได้?”
เคอหยวนจื่อเผยสีหน้าดูเบา คิดเพียงว่าสองคนนี้ช่างมีตาแต่ไร้แวว มีเพียงเงินยังมีประโยชน์อะไร?
ฮูหยินของขุนนางและพ่อค้าร่ำรวยเหมือนกันหรือ?
เจี่ยงเหวินจิ้งและพานเหราตกอยู่ในความเงียบ เป็นขุนนางย่อมดีจริง แต่ชวีคั่วก็ไม่ใช่คนมีความสามารถมากมายอะไร ขุนนางเล็กๆ ที่ไม่มีเงิน ในสายตาของพวกนางแท้จริงแล้วไม่อาจเทียบซ่งจิ่งเซินได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง