“เจ้าสาม ข้ารู้แต่ไหนแต่ไรมาเจ้าสนิทสนมกับอวิ๋นเวยที่สุด ระยะก่อนที่ช่วยเซี่ยงเหิงก็เป็นเจ้าขอร้องอยู่ตลอด”
“ตอนนั้นพวกเราก็พูดกันดีแล้ว ช่วยเพียงครั้งนี้ ภายภาคหน้าไม่ว่าเกิดเรื่องอะไรกับสกุลฉิน พวกเราจะไม่สนใจอีก”
สีหน้าคุณชายใหญ่สกุลกู้กู้ชิงเหยี่ยนปึ่งชา “หลายปีมานี้ มีเรื่องดีไม่เคยเห็นนางคิดถึงพวกเรา ข้ามปีข้ามเทศกาลก็ไม่เคยมาเยี่ยมเยียนท่านพ่อท่านแม่”
“ระยะก่อนร่างกายท่านแม่ไม่แข็งแรง เห็นนางมาถามไถ่สักครึ่งประโยคหรือไม่? บัดนี้เกิดเรื่องแล้ว กลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นนางมาหาพวกเราเพื่อขอความช่วยเหลือ!”
“บางทีอวิ๋นเวยอาจไม่รู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อแรกยามตัดขาดความสัมพันธ์ก็บอกแล้วว่าห้ามมิให้นางมาอีกครั้ง ไฉนเลยนางจะกล้ามา?” กู้ชิงเจ๋อโต้กลับ
กู้ชิงซิวยิ้มเย็น “ข้ามปีข้ามเทศกาลไม่กล้า เช่นนั้นเหตุใดตอนนี้ถึงกล้าเล่า?”
“เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ หลายปีมานี้เจ้าและอวิ๋นเวยไม่ใช่ไม่ติดต่อกันเลย หากไม่ใช่เพราะมีเจ้าสนับสนุนอยู่ตรงกลาง ไฉนเลยฉินซวงซวงและฉินเซี่ยงเหิงจะขวัญกล้ากำเริบเสิบสานถึงขั้นนี้?”
“ข้าจะบอกเจ้าให้ เจ้ามิใช่กำลังช่วยพวกเขา แต่ทำร้ายพวกเขา!”
“นั่นเพราะอับจนหนทางแล้วอย่างไรเล่า! ส่วนเรื่องในอดีตเหล่านั้นก็ไม่มีอะไรให้พูดถึงอีก อย่างไรเสียนางก็เป็นน้องสาวของข้า ข้ามิได้ใจดำเหมือนพวกท่าน ทนนิ่งดูดายมองนางตกลำบากได้!”
กู้ชิงเจ๋อพูดอย่างมีเหตุผล เขาคร้านจะสนใจคนใจดำทั้งสองแล้ว หันหน้าหาราชครูกู้ พูดว่า
“ท่านพ่อ เดิมทีฮูหยินผู้เฒ่าหลินก็เป็นคนรับมือได้ยาก หลินจือเยว่ถูกเนรเทศ นางกลับโยนความผิดทั้งหมดไว้ที่อวิ๋นเวย บุกเข้าไปแล้วไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ตบตี แม่นมสาวใช้ภายในห้องย่อมหาทางขัดขวางไว้”
“ผลักกันไปมา ร่างกายย่อมได้รับบาดเจ็บอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง บังเอิญขันทีประกาศพระราชโองการมาพอดี นางจึงอ้างว่าอวิ๋นเวยต้องการฆ่านาง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง