ตราบใดที่หลินรั่วหลานกลับคำพูดเสีย ความผิดทั้งหมดก็ย่อมไม่ตกอยู่ที่นางอีกต่อไป
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ นางจะต้องออกจากที่นี่ได้อย่างปลอดภัยเป็นแน่!
“ลูกแม่ ท้องนี้ของเจ้าถือว่าดียิ่งนัก หากมิมีเรื่องพวกนี้แล้วเล่าก็ จะดีแค่ไหนหากเจ้าได้พักผ่อนดูแลครรภ์อยู่กับบ้านให้ดี?”
“บัดนี้ต้องตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเลวร้ายเช่นนี้ เกรงว่าจะไม่ดีกับเด็กในครรภ์เจ้านัก”
กู้อวิ๋นเวยมองฉินซวงซวงอย่างห่วงใย ก่อนจะเหลือบมองหลินจือเยว่ด้วยความไม่พอใจ “เรื่องก่อนนี้ข้ามิอยากพูดถึงแล้ว บัดนี้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดเจ้าก็ต้องดูแลเด็กในครรภ์นี้ให้ดี!”
“ซวงซวงมิเคยทำสิ่งใดผิดต่อเจ้า ในเมื่อเจ้าเป็นบุรุษ จะให้ภรรยาและลูกต้องมารับเคราะห์ด้วยกันหมดได้อย่างไรเล่า!”
หลินจือเยว่รู้สึกสลับซับซ้อนในใจ เขาย่อมเข้าใจความหมายของกู้อวิ๋นเวยดี ซวงซวงกำลังตั้งครรภ์ลูกของเขา ย่อมต้องได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
เพียงแต่เมื่อคิดดูแล้ว เรื่องครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับเขาเลยแม้แต่น้อย หากต้องให้เขามาแบกรับทุกสิ่งอย่างแล้วเล่าก็ ในใจเขาเองก็อดรู้สึกขัดข้องไม่ได้
หากไม่ใช่เพราะซวงซวง เขาก็คงไม่ต้องกลายมาเป็นคนคุก แล้วยังต้องทนฟังถ้อยคำตำหนิติเตียนจากฉินฮูหยินเช่นนี้
ตัวเขาและท่านแม่ต่างหากที่โชคร้ายที่สุดในเรื่องนี้แล้ว!
ขณะนั้นเอง หลินรั่วหลานก็ถูกผู้คุมพาตัวเข้ามาเช่นกัน
“สองตระกูลนี้ช่างน่าสนใจดีแท้ คราก่อนถูกจับขังด้วยกันมาแล้ว ครานี้ก็ยังกลับมาอีก”
“ครานี้แม่ทัพฉินมิได้เข้ามาด้วย แต่ก็ได้ยินว่าถูกลดตำแหน่งจากระดับสี่ลงมาเป็นระดับหกเสียแล้ว ใครๆ ก็ต่างว่ากันว่าไร้อนาคต”
“ข้าว่าพวกเขาสู้ฮูหยินผู้เฒ่าหลินมิได้เสียด้วยซ้ำ นางถึงขั้นกล้าร้องทุกข์ต่อหน้าฝ่าบาท น่าทึ่งกว่านั้นคือฟูมฟายเป็นยกแล้วยังกลับคำพูด มิใช่ว่าเป็นการรนหาที่ตายหลอกลวงเบื้องสูงหรอกหรือ?”
หลินรั่วหลานถูกคุมตัวเข้าคุกมาด้วยสีหน้าซีดเซียว ท่าทีเหม่อลอยไม่รู้ทิศรู้ทาง จนกระทั่งเห็นหลินจือเยว่เข้าถึงราวกับได้พบที่พึ่ง นางรีบร้องไห้โฮพลางเอ่ยถาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง