“ท่านแม่ จู่ๆ กลับคำพูดต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทเช่นนั้น มีโทษถึงตายเลยมิใช่หรือ?”
“ก็แน่นอนว่านางต้องตายอยู่แล้วสิ!”
ภายในดวงตาของกู้อวิ๋นเวยฉายชัดถึงความตื่นเต้นและอำมหิต นางเฝ้ารอที่จะได้เห็นหลินรั่วหลานตายตกไปแทบไม่ไหวอยู่แล้ว!
หญิงมากความผู้นี้กล้าตบตีทำร้ายนาง ซ้ำยังทำนางต้องตกเป็นภรรยาที่ถูกขับไล่ หากปล่อยให้อยู่ดีมีสุขต่อไปแล้วความแค้นที่สุมแน่นอยู่ในอกนางจะมอดดับลงได้อย่างไรเล่า?
ฉินซวงซวงถึงกับหน้าถอดสี “โทษถึงตายเชียวหรือ?”
กู้อวิ๋นเวยพยักหน้า “นางทำตัวเองแท้ๆ หากนางมิเข้าวังไปร้องทุกข์ต่อฝ่าบาทเรื่องราวก็คงมิบานปลายมาถึงขั้นนี้หรอก นางสมควรแล้ว!”
“นางตายไปเสียก็ดีแล้ว อยู่ไปก็คอยแต่จะสร้างปัญหามิให้ได้หยุดหย่อน ขอเพียงไร้นาง วันข้างหน้าเจ้าก็จะมิมีแม่สามีน่ารำคาญใจเช่นนี้อีกต่อไป”
แม้ฉินซวงซวงจะรู้สึกตื่นตกใจอยู่บ้าง ทว่าเมื่อครุ่นคิดให้ดีก็กลับรู้สึกโล่งอกขึ้นมา อย่างไรเสียนางก็ไม่ถูกชะตากับหลินรั่วหลานอยู่นานแล้ว!
“หลินรั่วหลานจะถูกกุดหัวในเที่ยงวันพรุ่งนี้!”
ผู้คุมผู้หนึ่งเดินเข้ามาแจ้งข่าวคราว
ได้ยินเช่นนั้น หลินรั่วหลานที่เดิมทียังคงพร่ำพรรณาถึงความทุกข์ยากในห้องขังก็ถึงกับนิ่งงันไป
“ลูกแม่ เขาพูดจาเหลวไหลอะไรอยู่? กุดหัวอะไรกัน?”
หลินจือเยว่พลันมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก สิ่งที่เขากลัวที่สุดได้กลายเป็นความจริงเสียแล้ว!
“ก็ย่อมเป็นเจ้าน่ะสิถูกกุดหัว อาจหาญลบหลู่ฝ่าบาทเป็นความผิดฐานหลอกลวงเบื้องสูงเชียว! หากมิใช่เจ้าตายแล้วยังจะมีผู้ใดได้อีกเล่า?”
สีหน้ากู้อวิ๋นเวยเปี่ยมด้วยความเย้ยหยัน หลินรั่วหลานก็ช่างเป็นหญิงมากความตาไม่มีแววโดยแท้ จึงได้ไม่เข้าใจเสียทีว่าความผิดพลาดนี้ร้ายแรงมหันต์เพียงใด!
นางอ่านทะลุถึงจุดอ่อนนี้ของหลินรั่วหลานอย่างชัดเจน จึงได้จงใจทุ่มเงินทองก้อนโตติดสินบนขันทีน้อยให้นำข่าวนี้เข้าไปถ่ายทอด ใครจะคิดเล่าว่าหญิงโง่ผู้นี้จะยอมกลับคำพูดเข้าจริงๆ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง