วาจาคมกริบนี้ฉีกหน้าสกุลหลิ่วอย่างไม่ต้องสงสัย พริบตาต่อมาคนภายในงานเข้าใจแล้ว
ก่อนหน้านี้คนที่ยังคิดว่าสกุลหลิ่วพูดมีเหตุผลและน่าสงสารมาก บัดนี้รู้สึกเพียงถูกตบหน้าหนึ่งฉาดด้วยมือที่มองไม่เห็น!
อีกฝ่ายเป็นคนจิตใจดีมีเมตตาที่ใดกัน เห็นชัดว่าพวกเขาหน้าซื่อใจคดอีกทั้งยังเย็นชา ยังไม่ต้องพูดว่าเอาเปรียบสกุลกู้ ยังสามารถแสร้งทำท่าทางเป็นคนดีกล่าวโทษหลิ่วหรูเยียนได้อีกด้วย
หากไม่ใช่วันนี้ถูกเปิดโปงโดยบังเอิญ เช่นนั้นน่ากลัวว่าหลิ่วหรูเยียนก็ต้องถูกตราหน้าว่าทำผิดต่อสกุลหลิ่วและกลายเป็นวัวเป็นม้าเลี้ยงดูตอบแทนบุญคุณไปชั่วชีวิต ถึงขั้นยังถูกด่าว่าทำร้ายคุณหนูสกุลหลิ่วที่แท้จริงอีกด้วย!
ภายใต้การใคร่ครวญอย่างละเอียด นี่น่ากลัวมากเพียงใดกัน?
“หลิ่วเฟยเยี่ยนและกู้อวิ๋นเวยมีความสัมพันธ์ที่ดีมากมิใช่หรือ? ที่ผ่านมาข้าเคยพบพวกเขามิใช่เพียงครั้งเดียว น่ากลัวว่าพี่สาวน้องสาวคู่นี้นับญาติกันตั้งนานแล้วกระมัง!”
“ไม่เพียงแค่นี้! ที่ผ่านมาข้ายังเคยเห็นกู้อวิ๋นเวยเข้าออกสกุลหลิ่วอีกด้วย ตอนนั้นข้าก็คิดว่าแปลก ปกติแล้วกู้อวิ๋นเวยคนนี้ไม่เคยเห็นคนทั่วไปอยู่ในสายตา
ด้วยฐานะของสกุลหลิ่ว นางน่าจะไม่สนใจด้วยซ้ำ แต่พวกเขากลับสนิทสนมกันถึงเพียงนี้ นี่เห็นชัดว่าวางแผนไว้ตั้งแต่แรก!”
คราวนี้นายท่านหลิ่วและนายหญิงหลิ่วคล้ายตกเป็นเป้าถูกชี้นิ้วทุกสารทิศ ความคิดเล็กๆ ทั้งหมดที่ปิดบังไว้ในอดีตถูกเปิดโปง ร้อนใจอย่างสุดระงับ
“ไม่ พวกเราไม่รู้เรื่องนี้! สาเหตุที่ไปมาหาสู่กัน ก็แค่เพราะว่าได้พบหน้ากันครั้งแรกรู้สึกเหมือนรู้จักกันมาอย่างเนิ่นนานเท่านั้น!”
นายหญิงหลิ่วอธิบายอย่างไม่ลังเล “ที่ผ่านมารู้สึกว่าได้พบหน้ากันครั้งแรกรู้สึกเหมือนรู้จักกันมาอย่างเนิ่นนานต่อกู้อวิ๋นเวย ได้พบหน้าก็อยากพูดคุยมากขึ้นอีกสองประโยค บัดนี้หลังรู้ความจริงแล้วข้าถึงรู้ว่าที่แท้ก็คือความรักของคนในครอบครัว!”
“ใช่ ข้าเองก็รู้สึกว่าได้พบหน้ากันครั้งแรกรู้สึกเหมือนรู้จักกันมาอย่างเนิ่นนานต่อกู้อวิ๋นเวย คิดไม่ถึงเลยว่านางจะเป็นพี่สาวแท้ๆ ของข้า!” หลิ่วเฟยเยี่ยนรีบอธิบาย
ซ่งรั่วเจินหัวเราะออกมา “ซุนฮูหยินยังแสดงละครเก่งเหมือนที่ผ่านมา พูดว่าร้องไห้ก็ร้องไห้ พูดว่าหัวเราะก็หัวเราะ ข้ากลับอยากรู้ว่าคนตระหนี่อย่างท่านนี้ เหตุใดหลังกู้อวิ๋นเวยตกอับแล้วยังมอบร้านให้นางแห่งหนึ่ง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง