“ข้าเข้าใจแล้ว” ซ่งรั่วเจินรับคำเสียงหนึ่ง พูดกับอวิ๋นเนี่ยนชู
“เนี่ยนชู เจ้าช่วยข้าต้อนรับพวกองค์หญิงหกดีๆ มีเรื่องใดก็บอกเฉินเซียงได้ ข้าไปทำธุระส่วนตัวสักหน่อยเดี๋ยวมา”
อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “วางใจเถอะ ยกให้ข้า”
ซ่งรั่วเจินเห็นว่าซ่งเยี่ยนโจวกลับไปที่ห้องหอแล้ว ตนเองก็ลอบไล่ตามไป จากนั้นหลบที่ภายนอกห่างจากห้องหอไม่ไกล
นางเลื่อมใสความกล้าของฝานซืออิ๋งอย่างแท้จริง ต้องการใช้อุบายเดิมน่าขายหน้าพรรค์นี้อีกครั้งก็ช่างเถอะ ถึงขั้นยังเลือกวันแต่งงานของพี่ใหญ่
ช่างเป็นพวก...หน้าตาอัปลักษณ์ฝันหวานโดยแท้!
ชั่วขณะนางกำลังรอปลาติดเบ็ดอยู่นั้น ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าทางด้านหลัง รีบหันหลังกลับ
“ชู่ว์”
ฉู่จวินถิงใช้มือข้างหนึ่งปิดปากนาง ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามเผยสีหน้าแปลกใจอยู่รางๆ เอ่ยเย้า “คืนวันแต่งงานใหม่ของพี่ใหญ่เจ้า น้องสาวมาแอบฟังที่มุมกำแพงเช่นนี้ ไม่ดีกระมัง?”
เมื่อครู่เขาเห็นแม่นางคนนี้ลอบออกจากงานเลี้ยง รออยู่นานก็ยังไม่เห็นกลับมา นี่ถึงออกมาตามหา
ใครคิดเล่าว่านางที่เป็นคุณหนูในห้องหอคนหนึ่ง...จะมาแอบฟังที่มุมกำแพง?
ซ่งรั่วเจินเผชิญหน้ากับท่าทางแปลกประหลาด ตกตะลึงและพยายามทำความเข้าใจของฝ่ายชาย สมองก็ระเบิดแล้ว
เข้าใจผิดใหญ่หลวงเกินไปแล้ว!
“หม่อมฉันไม่ใช่ หม่อมฉัน หม่อมฉันเปล่า ท่านฟังหม่อมฉันอธิบาย”
ซ่งรั่วเจินรีบอธิบาย ต่อให้นางกล้าหาญ แต่ดีชั่วอย่างไรก็เป็นสตรียังไม่ออกเรือน ดึกดื่นค่ำมืดมาลอบฟังที่มุมกำแพง นี่...นางจะกลายเป็นคนเช่นไรกันเล่า!
ฉู่จวินถิงเห็นท่าทางว้าวุ่นถึงเพียงนี้ของฝ่ายหญิงไม่บ่อยนัก ปากสีแดงนั้นเดี๋ยวอ้าเดี๋ยวหุบ ว้าวุ่นจนเกินขอบเขต มองดูแล้วน่ารักเป็นพิเศษ
เขาพยายามระงับมุมปาก เอ่ยถามอย่างอดทน “เช่นนั้นเจ้าอธิบายให้ข้าฟัง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง