มีสิทธิ์อะไรกัน!
ชาติที่แล้วซ่งรั่วเจินสิ้นชีพลงด้วยเงื้อมมือนางโดยไร้ซึ่งกำลังต้านทาน แต่ชาตินี้สถานการณ์ของคนทั้งสองกลับพลิกผันโดยสิ้นเชิง!
หากหลิ่วหรูเยียนเป็นบุตรที่แท้จริงของสกุลกู้ เช่นนั้นก็หมายความว่าฐานะของซ่งรั่วเจินจะยิ่งสูงส่งขึ้นไปอีกระดับไม่ใช่หรือ?
เรื่องนี้ยอมไม่ได้โดยเด็ดขาด!
“ท่านตา เป็นซ่งรั่วเจินที่บอกว่านางคำนวณออกมาได้ใช่หรือไม่? นี่เป็นแผนการชัดๆ พวกท่านอย่าได้หลงเชื่อเป็นอันขาดเชียวนะเจ้าคะ!”
“นางเอาแต่พร่ำพูดว่าผู้อื่นเป็นนักต้มตุ๋น ทั้งที่ตัวนางเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเลย!”
“เห็นชัดว่านางต้องการเกี่ยวดองกับตระกูลพวกท่าน จึงได้จงใจกุเรื่องทั้งหมดนี้ขึ้นมา นางถนัดศาสตร์นี้เป็นอย่างยิ่ง คิดจะแต่งเรื่องใดก็ทำได้ตามอำเภอใจไม่ใช่หรือ?”
ฉินซวงซวงไม่หยุดร้อนรนใจ “พวกท่านไม่รู้สักนิดว่าแท้จริงสตรีนางนี้ร้ายกาจเพียงใด นางทำได้ทุกวิถีทางเพื่อบรรลุเป้าหมาย ทำให้ข้าตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ หากพวกท่านเชื่อนาง ภายภาคหน้าก็ย่อมจะพบจุดจบเช่นเดียวกันกับข้า!”
ทว่า หาได้มีผู้ใดเชื่อคำของนางแม้แต่คนเดียว
คนสกุลกู้เองก็มีตา สามารถตัดสินด้วยตนเองได้ ต่อให้ไม่มีหลักฐานใดๆ เพียงแค่ใบหน้าของหลิ่วหรูเยียนที่ละม้ายคล้ายคลึงกับฮูหยินผู้เฒ่ากู้ก็อธิบายทุกอย่างได้แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น สกุลหลิ่วก็ล้วนยอมรับแล้ว ดังนั้นคำพูดของกู้อวิ๋นเวยสองแม่ลูกในยามนี้จึงได้น่าขันนัก
“ก็เพราะตนเองร้อยเล่ห์กล จึงได้คิดว่าผู้อื่นจะเป็นเหมือนตนน่ะสิ”
ในดวงตาของกู้ชิงซิวเต็มด้วยความรังเกียจ สองแม่ลูกคู่นี้ก็ช่างเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน ตรงกันข้ามกับคนสกุลซ่งที่ไม่ว่าจะความประพฤติหรือสิ่งอื่นใดก็ล้วนโดดเด่นกว่าร้อยเท่า!
ซ่งรั่วเจินรู้ว่ากู้หวยซวี่ตัดสินใจแล้ว ไม่รู้ว่าวันพรุ่งนี้เมื่อเข้าเฝ้าฮ่องเต้แล้วจะได้รับโทษสถานใด
ทว่าสกุลกู้มีป้ายทองละเว้นโทษตาย จึงแทบไม่ต้องกังวลเรื่องชีวิต เพียงแต่ถูกคนเช่นกู้อวิ๋นเวยทำเอาพลอยเดือดร้อนไปด้วย ช่างไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ!
ทุกคนไม่ได้อยู่ที่นั่นกันนานนัก หลังจากจ้าวจือเต๋อกุมตัวกู้อวิ๋นเวยไป ทุกคนต่างก็พากันกลับจวน
ซ่งรั่วเจินขึ้นรถม้าแล้ว ทว่าภายใต้แสงเลือนรางกลับสังเกตเห็นเงาคุ้นตาร่างหนึ่งอยู่ไม่ไกล เมื่อหันมองไปอีกครั้งกลับมองไม่เห็นอะไรแล้ว นางอดสงสัยไม่ได้ หรือว่าตนจะตาฝาดไป?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง