รุ่งเช้าวันถัดมา
ลั่วชิงอินยกน้ำชาคำนับแม่สามี ใบหน้างามประดับด้วยความเขินอาย กล่าวด้วยเสียงอ่อนน้อม “ขอท่านแม่โปรดรับชาเจ้าค่ะ”
หลิ่วหรูเยียนมองดูซ่งเยี่ยนโจวคู่สามีภรรยาที่กลมเกลียวกัน บนใบหน้าก็ผุดรอยยิ้มอย่างยากจะปิดบัง นางยกชาขึ้นดื่มด้วยรอยยิ้มระรื่น
“ดี ดียิ่ง ต่อไปพวกเจ้าต้องอยู่กันให้ปรองดอง สามีภรรยาจับมือร่วมทาง ข้าก็วางใจแล้ว”
“สะใภ้ขอบคุณท่านแม่สามีที่ชี้แนะเจ้าค่ะ” ลั่วชิงอินตอบรับอย่างเชื่อฟัง
ซ่งรั่วเจินและพี่น้องทั้งหลายที่ยืนอยู่ด้านข้างเมื่อเห็นภาพพี่ใหญ่และพี่สะใภ้หวานชื่นรื่นรมย์ ก็อดลอบขำไม่ได้ ท่าทีหวานซึ้งเช่นนี้เห็นได้ชัดว่าการปรากฏตัวของฝานซืออิ๋งไม่ได้มีผลกระทบใดๆ
“ท่านแม่ ลูกได้ยินมาว่าหลังจากส่งแขกเมื่อคืน พวกท่านก็ออกไปข้างนอกด้วย มีเรื่องใดเกิดขึ้นงั้นหรือ?”
ซ่งเยี่ยนโจวเพิ่งทราบข่าวเมื่อเช้าวันนี้เอง รู้เพียงว่าคนในครอบครัวไปสกุลกู้กันมา แต่กลับไม่รู้รายละเอียดใด
ใบหน้าของหลิ่วหรูเยียนฉายความกังวลอยู่บ้าง คราวนี้นางก็ไม่ได้ปิดบังอะไร และเล่าความเป็นมาทุกอย่างออกไป
“น้องรองของเจ้าไปเข้าเฝ้าแล้ว มีแต่ต้องรอให้เขากลับมาก่อนจึงจะรู้ผล”
วันวิวาห์ของซ่งเยี่ยนโจวก่อนหน้านี้ก็ได้กราบทูลฮ่องเต้ไว้แล้ว ดังนั้นสามวันมานี้จึงไม่จำเป็นต้องเข้าเฝ้ายามเช้า
ซ่งเยี่ยนโจวได้ฟังก็ตกใจ ไม่ได้คาดคิดว่าเมื่อคืนจะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นถึงเพียงนี้
“กู้อวิ๋นเวยก็ช่างบ้าบิ่น ใจกล้าไม่กลัวฟ้าดินได้ถึงเพียงนี้เชียว!”
“ไม่ว่าจะอย่างไรกู้อวิ๋นเวยก็สมควรได้รับมัน ข้าเพียงแต่รู้สึกว่าที่ราชครูกู้จะขอลาออกด้วยเหตุนี้ ออกจะน่าเสียดายไปสักหน่อย”
ซ่งจิ่งเซินถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ราชครูกู้เป็นท่านตาของพวกเขา แม้จะกล่าวได้ว่าหลายปีก่อนนี้ไม่ได้มีข้องแวะใดต่อกัน แต่จากเมื่อวานที่ราชครูกู้มีท่าทีปกป้องท่านแม่ พวกเขาก็ยินดีที่จะนับเขาผู้นี้เป็นท่านตา
ทว่ามาเปลี่ยนคำเรียกภายในเวลาไม่นานก็ยังคงรู้สึกไม่คุ้นชินอยู่บ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง