ฉู่จวินถิงเลิกคิ้วขึ้น “ได้ ข้าจะไปกับเจ้า”
เมื่อมองชายหนุ่มข้างกาย ซ่งรั่วเจินก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม ทั้งสองเดินไปตามถนนเมืองหลวงด้วยกัน
“หญิงสาวยังชอบเครื่องประดับที่สุดอยู่ดี พวกเราไปดูร้านเครื่องประดับกันดีหรือไม่?”
ซ่งรั่วเจินคิ้วตาอมยิ้ม โดยรวมสิ่งของพื้นฐานที่หญิงสาวชอบก็ไม่ต่างกันมาก ของประเภทเครื่องประดับมีเยอะเท่าไรก็ไม่พอ
ฉู่จวินถิงเห็นว่ายามที่ตนเองเอื้อนเอ่ย นัยน์ตาใสฉ่ำก็โค้งเป็นพระจันทร์เสี้ยว คล้ายกับพูดคุยได้ เขาจ้องนางด้วยท่าทางสนอกสนใจ รู้สึกเพียงว่าคล้ายกับถูกมอมเมา
ไม่ว่านางจะพูดอะไร เขาก็อยากบอกว่าดี
อวิ๋นหยางมองท่านอ๋องของตัวเองที่ปกติมีนิสัยเยือกเย็นอยู่เสมอ บัดนี้ประเดี๋ยวก็เอาแต่ยิ้ม ในใจก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“หลังจากที่ท่านอ๋องได้พบคุณหนูซ่ง ก็ไม่เหมือนเดิมโดยสิ้นเชิง”
เฉินเซียงยิ้มด้วยใบหน้ายินดี แล้วอดไม่ได้ที่จะพูด “เจ้าก็คิดว่าท่านอ๋องกับคุณหนูของพวกข้าเหมาะสมกันใช่หรือไม่?”
อวิ๋นหยางปรายตามองเฉินเซียง พร้อมพยักหน้า “เหมาะสมจริงๆ!”
ทั้งสองเดินอยู่ด้านหลังอย่างรู้ใจกัน เว้นระยะห่างจากเจ้านายตัวเองเล็กน้อย มองดูคู่กิ่งทองใบหยกตรงหน้า ในใจรู้สึกปลาบปลื้ม
ร้านจินอวี้ถัง
ร้านเครื่องประดับที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวง ด้านในไม่ว่าจะปิ่นมุก สร้อยคอกำไลมือ แม้แต่เครื่องประทินโฉมสำหรับหญิงสาวในที่แห่งนี้เรียกได้ว่ามีครบครัน
ซ่งรั่วเจินเดินเตร่ สายตาก็มองเห็นผ้าคาดผมสีแดง
บนผ้าคาดผมสีแดงใช้ไหมทองปักลายผีเสื้อ ถึงจะมีขนาดเล็กไม่กี่ตัวและไม่เด่นชัด แต่กลับประณีตยิ่งนัก
“ผ้าคาดผมนี่…เป็นผ้าไหมน้ำแข็งชั้นดี?”
นางหยิบผ้าคาดผมขึ้นมา ก็รู้สึกถึงสัมผัสมือของผ้าคาดผมได้ว่าไม่ธรรมดา ดุจดั่งน้ำและผ้าต่วน ยิ่งเปล่งประกายขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้แสงตะวันที่สาดส่อง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง