เมื่อลองพิจารณาดูแล้ว ซื่อจื่อน้อยก็เป็นน้องชายของฉู่อ๋องเช่นกัน หรือว่าฉู่อ๋องจะไม่ให้เกียรตินางเลยหรือ?
นางนั้นลังเลยังไม่กล้าพูด ทันใดนั้นนางก็มองเห็นร่างสูงโปร่งดูอ่อนโยนเดินเข้ามา ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มในพริบตา
“ซื่อจื่อน้อย ท่านมาแล้วหรือ!”
ซ่งรั่วเจินหันไปมอง เห็นฉู่จิ่นหวยค่อย ๆ เดินเข้ามา ดวงตาพราวใสมีความประหลาดใจแล่นผ่าน
เมืองหลวงนั้นช่างเล็กเสียจริง แค่เพียงชั่วขณะเดียวก็บังเอิญพบเจอคนที่คุ้นเคยหลายคน
จากงานเลี้ยงนับญาติครั้งก่อน นางก็ไม่เคยเห็นฉู่จิ่นหวยอีกเลย แต่ตอนที่พี่ใหญ่แต่งงาน จวนเซียงอ๋องกลับส่งของขวัญแสดงความยินดีมาให้ ทว่าได้ยินมาว่าพระชายาเซียงอ๋องไม่สบาย จึงไม่สามารถมาเข้าร่วมได้
บัดนี้ได้พบกับฉู่จิ่นหวยอีกครั้ง หน้าตาของเด็กหนุ่มนั้นดูผ่อนคลายลงกว่าเมื่อก่อนประมาณหนึ่ง ไม่ปิดกั้นมากอย่างนั้นแล้ว แต่ยังคงมีความเศร้าหลงเหลืออยู่จาง ๆ
“คุณหนูซ่ง?”
เมื่อฉู่จิ่นหวยนั้นเห็นซ่งรั่วเจิน สายตานั้นเป็นประกายขึ้นมาบางส่วน แม้แต่เสียงก็ขึ้นสูงอย่างไม่รู้ตัว คล้ายมีความยินดีเป็นอย่างมาก
“นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอเจ้า เจ้ามาภัตตาคารเพื่อกินอาหารเย็นเช่นกันหรือ?”
ซ่งรั่วเจินนั้นยิ้มแล้วพยักหน้า “ถูกต้อง ช่างบังเอิญเสียจริงเจ้าค่ะ”
อู๋เมี่ยวเสวียนที่ติดตามซื่อจื่อน้อยมาตลอดทั้งวัน ไม่เคยพบเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของเขาเช่นนี้มาก่อนเลย แต่เมื่อได้พบซ่งรั่วเจิน เขากลับดูมีความสุขเช่นนี้จนนางนั้นอดรู้สึกแปลกใจไม่ได้
นี่มันคือเพราะเหตุใดกัน?
ซื่อจื่อน้อยคงไม่ได้ชอบซ่งรั่วเจินกระมัง?
ฉู่อ๋องนั้นเป็นลูกพี่ลูกน้องของซื่อจื่อน้อยเชียวนะ!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง