ลู่หมิ่นฮุ่ยเห็นคนทั้งสองจากไปแล้วก็ไม่มีแก่ใจมาสนทนากับพระชายาเซียงอ๋องต่ออีก หากแต่รีบสั่งความลงไป
ผ่านไปไม่นาน ข้ารับใช้ก็กลับมาแล้ว
“พระชายา หลังตรวจสอบโดยละเอียดแล้วพบว่ามุมหนึ่งฝั่งตะวันตกมีน้ำรั่วซึมจริงๆ เป็นเส้นเล็กๆ ซ่อนอยู่ลับตายิ่งนัก”
“หากไม่ใช่เพราะทุกคนตรวจหาโดยละเอียดแล้วละก็ คิดว่าคงหาไม่พบเลย”
“มีจริงๆ อย่างนั้นรึ?”
ลู่หมิ่นฮุ่ยเบิกตากว้าง รู้สึกเพียงว่าซ่งรั่วเจินร้ายกาจเกินไปแล้ว!
นางหยิบยันตร์คุ้มภัยออกมาจากในอกเสื้อโดยไม่รู้ตัว ครั้นคิดถึงว่าก่อนหน้านี้ซ่งรั่วเจินบอกว่าลูกน้อยในครรภ์จะถือกำเนิดอย่างปลอดภัยแน่นอน รอยยิ้มบนใบหน้านางก็ยิ่งสดใสกว่าเดิม
“ก่อนนี้ข้าไม่ควรฟังเสียงลือเสียงเล่าอ้างจนเข้าใจแม่นางซ่งผิดไปเลย ยามนี้ดูแล้วแม่นางผู้นี้ดีไม่ใช่ธรรมดาเลยนะ”
“ไป ไปนำเครื่องประดับที่ข้าเก็บรักษาไว้อย่างดีออกมา ข้าจะต้องเลือกเครื่องประดับสักสองสามชุดส่งไปขอบคุณสักหน่อยแล้ว!”
……
เมื่อซ่งรั่วเจินกับฉู่จวินถิงมาถึงเรือนหลังเล็กของสกุลจาง อวิ๋นเนี่ยนชูกำลังมีสีหน้าหนักอึ้ง
นางเห็นซ่งรั่วเจินมาแล้ว ดวงตาก็พลันเป็นประกาย รีบรุดออกมา “รั่วเจิน ท่านอ๋อง พวกท่านมาแล้ว”
“เจ้าเป็นแบบนี้...คงไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกระมัง?”
ซ่งรั่วเจินเห็นท่าทางกระสับกระส่ายของอวิ๋นเนี่ยนชูแล้ว ดวงตาใสกระจ่างก็ฉายแววกังวล
อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้า “เมื่อคืนข้าได้ยินเสียงกรีดร้องของท่านแม่ ทั้งยังพร่ำพูดว่าตนเองมีชีวิตต่อไปก็ไร้ประโยชน์ มิสู้ตายไปเสียดีกว่า”
“ข้ารีบเรียกปลุกท่านแม่ หลังจากนั้นข้าก็พบว่าเหมือนจะเป็นเพ้อละเมอร่ำร้องอยู่ในความฝัน จู่ๆ ก็มีความคิดอยากตายขึ้นมา”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง