ญาติผู้พี่...ปกป้องนางเช่นนี้มาโดยตลอด
ผีทวงชีวิตเห็นคนทั้งสองหลบหลีกก็คิดจะเข้าใกล้ฉู่จวินถิงที่อยู่ใกล้ที่สุดโดยสัญชาตญาณ แต่ชั่วขณะที่เห็นฉู่จวินถิง ดวงตาของมันกลับฉายแววตื่นตระหนกแล้วถอยหลังไปเล็กน้อยอย่างลนลาน
ฉู่จวินถิงเห็นท่าทางของผีทวงชีวิตแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาสง่างามก็ฉายแววนึกสนุก กิ่งไม้ท้อในมือแทงออกไปราวกระบี่คมกริบ
ฟิ้ว!
กิ่งไม้ท้อแทงถูกผีทวงชีวิตในชั่วพริบตา มันส่งเสียงร้องโหยหวน
ซ่งรั่วเจินผนึกผีทวงชีวิตที่ได้รับบาดเจ็บไว้ตรงนั้น แต่กลับปราศจากท่าทีจะสังหารมันในทันที
“รั่วเจิน นี่ จะทำอย่างไรกับเจ้านี่?”
ดวงตาอวิ๋นเนี่ยนชูทอแววหวาดกลัว ที่ผ่านมาเพียงแต่เคยได้ยินเรื่องทำนองนี้ ไม่เคยคิดว่าจะเป็นเรื่องจริง จนกระทั่งได้มาเห็นกับตาจึงทราบว่าน่ากลัวเพียงไหน
ซ่งรั่วเจินคลี่ยิ้มบาง “เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าเป็นผู้ใดที่ส่งเจ้านี่มากันแน่?”
“เจ้าคิดจะ...สนองคืนด้วยวิธีเดียวกัน?” ฉู่จวินถิงเข้าใจได้ในทันที
ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ในเมื่อเจ้าผีน้อยตนนี้ถูกส่งมาแล้ว แทนที่พวกเราจะจัดการมันโดยตรง มิสู้ส่งมันกลับไป ใครเรียกมาก็ให้คนนั้นจัดการ มิดีกว่าหรือ?”
ผู้คนในห้องได้ยินอย่างนั้นดวงตาก็พลันสว่างวาบ นี่เป็นวิธีจัดการที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
“คงเป็นอนุอวิ๋นนั่นแหละที่เรียกมา”
จางเหวินได้สติคืนมาแล้วก็ใคร่ครวญทุกอย่างจนกระจ่างได้อย่างรวดเร็ว ยามนี้คนที่หวังให้นางตายมากที่สุดคงเป็นอนุอวิ๋น
เมื่อก่อนตอนอยู่ในตระกูลอวิ๋นไม่มีโอกาสลงมือ ยามนี้นางออกมาจากตระกูลอวิ๋นแล้ว ทั้งยังไปเจอวิธีการที่ยากจะสังเกตพบเช่นนี้ อนุอวิ๋นย่อมหวังให้นางหายไปโดยสิ้นเชิง!
ซ่งรั่วเจินหยิบยันตร์สะท้อนกลับแผ่นหนึ่งออกมาแปะลงบนกระหม่อมของผีทวงชีวิตตนนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง