“อย่างไรท่านพ่อข้าก็บอกไว้แล้ว ให้ข้าทำเรื่องดีๆ ต้องการเงินเท่าใดก็เบิกจากห้องบัญชีโดยตรง จะกลัวไปไย?”
สาวใช้พยักหน้า “เจ้าค่ะ คุณหนู”
ยิ่งซาลาเปาเนื้อมากขึ้นเท่าใด กระทั่งประชาชนจำนวนหนึ่งในเมืองก็ยังเปลี่ยนไปใส่เสื้อผ้าขาดวิ่นหน่อยแสร้งเป็นผู้ลี้ภัย เพียงครอบครัวหนึ่งเพิ่มคนมาไม่กี่คน ก็ได้ซาลาเปาเนื้อก้อนโตไปไม่น้อย!
ในวันนี้ ประตูเมืองทิศทักษิณเรียกได้ว่าคึกคักอย่างไม่เคยมีมาก่อน!
เพียงแต่เมื่อผู้คนยิ่งมากขึ้น หลังจากซาลาเปาเนื้อที่มีอยู่ในเมืองแทบทั้งหมดถูกถังเสวี่ยหนิงซื้อไปจนหมดแล้ว ผู้ดูแลที่อยู่ข้างๆ ก็อดกล่าวไม่ได้
“คุณหนู ซาลาเปาเนื้อราคาแพงนัก ค่าใช้จ่ายวันนี้มากเกินไปจริงๆ ก่อนนี้นายท่านบอกแค่เพียงแจกจ่ายโจ๊ก แต่ไม่ได้บอกให้แจกซาลาเปาเนื้อ…”
“แล้วอย่างไร? เจ้าไม่เห็นหรือว่าประชาชนที่ได้ซาลาเปาเนื้อไปยินดีกันเพียงใด?”
“ประชาชนเหล่านี้เดิมก็น่าสงสารอยู่แล้ว ต้องระเห็จลี้ภัยมาถึงนี่ ก็แค่ซาลาเปาเนื้อลูกเดียว เจ้าจะตระหนี่ไปไย?”
“พรุ่งนี้เจรจากับร้านค้าในเมืองให้เรียบร้อย ให้พวกเขาเตรียมไว้มากหน่อย อย่าให้เป็นเช่นวันนี้อีก ที่แค่พริบตาเดียวก็หมดแล้ว!”
ถังเสวี่ยหนิงสีหน้าเปี่ยมภาคภูมิ นางมองผู้คนที่ต่อแถวรออยู่ด้านหน้าพลางกล่าว “วันนี้เร่งมาจนเกินไป ซาลาเปาเนื้อในเมืองหลวงขายหมดแล้ว ทุกท่านกลับมาใหม่พรุ่งนี้เถิด!”
อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินข่าวนี้เข้า คนส่วนใหญ่ต่างก็พยักหน้า สีหน้าเผยแววเสียดาย ทว่ามิวายมีคนเอ่ยปากต่อว่า
“พวกเราตั้งใจถ่อมาถึงที่นี่ สุดท้ายกลับหมดเสียแล้วรึ?”
“เหตุใดคนอื่นได้ พวกเรากลับไม่ได้เล่า! ไม่ใช่ว่าแจกไม่ไหว จึงได้จงใจหาข้ออ้างหรอกรึ!”
เมื่อถังเสวี่ยหนิงได้ยินเข้า สีหน้าของนางก็พลันเปลี่ยนไปไม่น่าดู “พวกเจ้าพูดเหลวไหลอะไร? คุณหนูอย่างข้าน่ะหรือจะติดค้างซาลาเปาพวกเจ้าได้? พรุ่งนี้เช้าก็มีมาแล้ว พวกเจ้ามาเข้าแถวใหม่ก็แล้วกัน!”
ผู้ดูแลขยิบตาให้องครักษ์ หลายคนรีบรุดหน้าขึ้นมา ขับไล่คนออกไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง