“ท่านอ๋อง กระหม่อมไปสอบถามมาแล้ว ไต้ซือเทียนจีพำนักอยู่ที่เรือนด้านหลังนี้พ่ะย่ะค่ะ”
“ว่ากันว่าเขาจะพบผู้ที่มาสักการะเพียงสามคนต่อวันเท่านั้น หากมิใช่ผู้ที่ถูกชะตาก็จะมิยอมพบ เงื่อนไขเข้มงวดยิ่ง แต่ก็เพราะยากที่จะได้เข้าพบ ทุกวันจึงได้มีผู้มาสักการะขึ้นมายังที่แห่งนี้ไม่น้อย”
“และแน่นอนว่าจำนวนผู้ที่มาสักการะที่วัดอวิ๋นฉานจึงได้มากขึ้นตามไปด้วย”
อวิ๋นหยางนำข่าวที่สืบทราบมารายงานไปตามความจริง
ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง ออกเดินทางจากเมืองหลวงมาก็เป็นเวลาบ่ายแล้ว เส้นทางขึ้นเขานี้ เมื่อถึงที่หมายท้องฟ้าทั้งผืนก็กลายเป็นภาพอาทิตย์อัสดงเสียแล้ว
“ถึงแม้จะพบเพียงสามคนต่อวัน ก็เพียงพอให้เขากอบโกยได้เป็นกอบเป็นกำแล้ว”
ดวงตาของซ่งรั่วเจินที่คล้ายหมอกควันแฝงไว้ด้วยความเย้ยหยันเบาๆ ตั้งแต่โบราณมา เรื่องไม่ดีที่ไม่อาจเปิดเผยต่อผู้คนก็ทำเงินได้ดีที่สุดแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นอนุอวิ๋นหรือผู้ที่ลงมือกับพระชายาเซียงอ๋อง ก็จะต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่ออัญเชิญผีน้อย การโก่งราคาสูงลิบก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องปกติ
อย่างไรเสีย เดิมทีก็เป็นเรื่องทำลายคุณธรรม หากเงินไม่ถึงก็ย่อมไม่มีผู้ใดยอมทำให้
“ตอนนี้ผู้มาสักการะก็กลับไปกันเกือบหมดแล้ว พวกเราก็ไปพบกันตรงๆ เลยเถิด”
ดวงตาราวหินอัคนีของฉู่จวินถิงเปี่ยมด้วยแววเยียบเย็น จะปล่อยให้คนชั่วใช้วิธีการเช่นนี้อยู่ในเมืองหลวงต่อไม่ได้!
บัดนี้เพียงระยะเวลาสั้นๆ ก็มีคนเดือดร้อนไปตามๆ กันแล้ว หากปล่อยให้สายแม้เพียงนิด ผลลัพธ์ก็ไม่อาจคาดเดาได้แล้ว!
ทว่าทุกคนยังไม่ทันได้เดินไปถึงเรือนก็ถูกคนสกัดกั้นเอาไว้
“ท่านทั้งหลาย วันนี้ไต้ซือเทียนจีไม่รับผู้สักการะแล้ว วันพรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่เถิด”
ฉู่จวินถิงปรายตามองพระรูปนั้นอย่างมีนัยยะ อวิ๋นหยางก้าวไปข้างหน้าพลางกล่าว “ฉู่อ๋องของพวกเราต้องการพบผู้ใด ก็ล้วนไร้เหตุผลให้มิได้พบ!”
เมื่อพระรูปนั้นได้ยินว่าผู้มาเยือนคือฉู่อ๋องแล้วก็ถึงกับตกใจ รีบทำความเคารพ “คารวะฉู่อ๋อง”
ฉู่จวินถิงยกมือขึ้นน้อยๆ เป็นเชิงไม่ให้พระรูปนั้นยุ่งไม่เข้าเรื่อง อวิ๋นหยางพร้อมด้วยองครักษ์ที่เหลือจึงผลักประตูเรือนโดยตรง ทุกคนพากันเดินเข้าไป
ทว่าภายในเรือนกลับว่างเปล่าไร้ผู้ใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง