ในเมื่อยามนี้ฝ่ายตรงข้ามหนีไปแล้ว เพียงรอให้จวนฉู่อ๋องจับตัวกลับมาก็พอ ส่วนเรื่องที่เหลือ คาดว่าคงไม่ต้องหนักใจอีกต่อไป ทางการสามารถจัดการเองได้
เสียงโลหะกระทบกันด้านหลังยิ่งทวีความรุนแรงขึ่น ฉู่จวินถิงมองซ่งรั่วเจินอย่างลึกซึ้งอยู่ขณะหนึ่ง ก่อนชักกริชเล่มหนึ่งส่งให้นาง
“เช่นนั้นเจ้าก็ระวังตัวด้วย”
“วางใจเถิดเพคะ”
เมื่อฉู่จวินถิงออกไปแล้ว ซ่งรั่วเจินก็ไม่ได้รั้งรอ นางและเฉินเซียงรีบมุ่งออกไปด้านนอก
ระหว่างเดินไปนางอดครุ่นคิดขึ้นมาไม่ได้ ว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังของไต้ซือเทียนจีผู้นี้ช่างไม่ธรรมดาเลย
ฉู่จวินถิงวิทยายุทธแก่กล้า บนสนามรบเรียกได้ว่ากำจัดศัตรูราบคาบ ส่วนองครักษ์เกือบทั้งหมดล้วนเคยผ่านศึกมา วิทยายุทธทิ้งห่างจากองครักษ์ประจำจวนทั่วๆ ไปเป็นอย่างมาก
เมื่อครู่พวกเขามากันถึงสิบกว่าชีวิต เวลานี้กลับถูกจัดการจนหมด มิหนำซ้ำยังตกอยู่ในอันตราย เห็นได้ว่ากลอุบายของฝ่ายตรงข้ามแยบยลนัก
อย่างไรก็ดี เพิ่งจะก้าวขาออกจากเรือนได้ไม่กี่ก้าว สีหน้าของซ่งรั่วเจินก็พลันเปลี่ยน
“คุณหนู เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ?”
เฉินเซียงเห็นใบหน้าของคุณหนูตนพลันเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม ดวงตาก็ฉายแววเป็นกังวล
“นี่คือค่ายกลอำพรางตัว!”
นัยน์ตาใสกระจ่างฉายแววตกตะลึง ซ่งรั่วเจินมองสำรวจสถานการณ์รอบข้างโดยละเอียด พลันตระหนักได้ว่าตั้งแต่พวกนางเหยียบย่างเข้ามาในเรือนแห่งนี้แล้วก็คือการเข้าสู่ค่ายกลอำพรางตัว!
ค่ายกลอำพรางตัวทั่วไปย่อมไม่อาจรอดพ้นสายตานางไปได้ แต่ค่ายกลนี้ลึกลับนัก คาดว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้น้ำโลหิตเป็นสื่อกลาง ยอมลงทุนถึงเพียงนี้เลยหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง