อิงตามการหยั่งเดา ก็เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร
สายตาฉู่จวินถิงเคร่งขรึม “เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง”
......
สกุลซ่ง
“ป่านนี้แล้วเจินเอ๋อร์ก็ยังไม่กลับมาอีกหรือ?”
หลิ่วหรูเยียนเห็นซ่งรั่วเจินยังไม่กลับมา กังวลใจอย่างอดไม่ได้
“ท่านแม่ วันนี้ฉู่อ๋องรับน้องหญิงห้าไป ข้าเองก็ไม่ได้ยินข่าวว่านางเข้าวัง น่าจะไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรอกกระมัง?” ซ่งจืออวี้เอ่ยขึ้น
ซ่งจิ่งเซินขมวดคิ้ว “แต่ไหนแต่ไรมาฉู่อ๋องรู้ขอบเขตยิ่งนัก อิงตามหลักการแล้ว ไม่น่าพาน้องหญิงห้ากลับมาส่งดึกดื่นถึงเพียงนี้”
“ข้าได้ยินผู้ดูแลแจกจ่ายโจ๊กกลับมาก็รายงานว่าวันนี้น้องหญิงห้าออกจากเมือง ตอนอยู่นอกเมืองยังได้พบกับถังเสวี่ยหนิงอีกด้วย จึงให้คนแจกจ่ายโจ๊กทางเมืองเฉิงหนานเก็บแผง”
“เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” หลิ่วหรูเยียนแปลกใจ
“เรื่องเก็บแผงนี้น้องหญิงทำถูกแล้ว แม่นางสกุลถังคนนั้นน่ากลัวว่าสมองมีปัญหา ปกติได้พบผู้ลี้ภัย แต่ไหนแต่ไรมาพวกเราล้วนแจกจ่ายโจ๊ก”
“ประการแรกป้องกันมิให้ราษฎร์แอบอ้างรับของ ประการที่สองแม้ว่าไม่ดีมากมายอันใด แต่ก็ไม่ทำให้ราษฎร์อดตาย ทว่าถังเสวี่ยหนิงคนนั้นถึงขั้นซื้อซาลาเปาเนื้อจำนวนหนึ่ง พูดว่าผู้ลี้ภัยลำบาก ภายในท้องไม่มีสารอาหาร”
“เวลาสั้นๆ ซาลาเปาเนื้อภายในเมืองล้วนถูกพวกเขาซื้อไปแล้ว แม้แต่โจ๊กที่พวกเราแจกจ่ายก็ถูกเยาะหยันว่าเป็นคนร่ำรวยแต่ใจแคบไร้เมตตา”
ซ่งจิ่งเซินเยาะหยันเบาๆ “ถ้อยคำนี้พูดได้น่าสนใจ เงินของพวกเราสกุลซ่งมิใช่ลมพัดมาให้ แจกจ่ายโจ๊กนี่ก็ไม่เลวแล้ว ถึงขั้นพูดว่าพวกเราใจแคบ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง