ลู่หมิ่นฮุ่ยได้ยินดังนั้นก็รู้สึกยินดียิ่งนัก “พี่หญิง ท่านดูออกก็ดีแล้วเพคะ ถังเสวี่ยหนิงผู้นี้ไม่ใช่คู่ครองที่เหมาะสมจริงๆ”
“เรื่องระหว่างพิธีล่าสัตว์คราวก่อนก็ทำความผิดใหญ่หลวงไปแล้ว ถ้าบอกว่านางบริสุทธิ์จริงๆ ถูกหลอกลวงมา ข้ากลับเชื่อไม่ลง”
ฮองเฮาได้ยินแล้วก็เงียบไป เรื่องคราวก่อนคนมีวิจารณญาณล้วนมองพิรุธออก แม้สุดท้ายจะยืนยันแล้วว่าไม่เกี่ยวข้องกับถังเสวี่ยหนิง แต่นั่นก็เป็นเพราะนางไม่ฉลาดเองถึงได้ถูกคนวางหลุมพรางเอาเช่นนั้น
หลังเกิดเรื่องนี้ นางก็กระจ่างแล้วว่าถังเสวี่ยหนิงเป็นพวกไม่มีสมองจริงๆ
คงเป็นเพราะครอบครัวให้ท้ายมาจนชิน เข้าใจว่าทุกเรื่องจะเป็นไปตามที่นางต้องการ นิสัยเช่นนี้ หากได้เป็นชายาฉู่อ๋องจริงๆ นอกจากจะช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ยังจะกลายเป็นตัวถ่วงเสียอีก
“พี่หญิง ความจริงข้ารู้สึกว่าแม่นางซ่งผู้นั้นก็ดีมากนะเพคะ ท่านดูจากเรื่องแจกโจ๊กคราวนี้สิ เห็นได้ชัดว่าถังเสวี่ยหนิงจงใจหาเรื่องนาง”
“แต่ท่านดูสิว่าแม่นางซ่งทำอย่างไร? นางไม่ชิงดีชิงเด่น ยอมแบกรับคำครหาอยู่หลายวัน นางยังไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย”
“ด้วยฐานะของพวกเรา จำเป็นต้องเข้าใจความสำคัญของภาพรวม ไม่อาจทำลายเรื่องสำคัญที่สุดไปเพราะเรื่องเล็กน้อย นี่ต่างหากจึงเป็นนิสัยที่คุณหนูตระกูลใหญ่ที่แท้จริงพึงมี”
ลู่หมิ่นฮุ่ยคลี่ยิ้ม เรื่องคราวนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ นางคอยสังเกตปฏิกิริยาของตระกูลซ่งมาโดยตลอด
ซ่งรั่วเจินไม่มีความคิดจะแข่งขันกับถังเสวี่ยหนิง เพียงแต่ทำเรื่องที่นางควรทำไปอย่างเงียบๆ เท่านี้ก็รู้แล้วว่านางฉลาด
ฮองเฮามองน้องสาวของตนเองด้วยสีหน้าแปลกประหลาด “เหตุใดจู่ๆ เจ้าก็ช่วยเหลือซ่งรั่วเจินเช่นนี้?”
“เมื่อก่อนข้าเข้าใจแม่นางซ่งผิดไปเพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างพวกนั้น แต่บัดนี้เรื่องฉินซวงซวงกับหลินจือเยว่ก็เปิดเผยออกมาแล้ว เห็นได้ชัดว่านางเป็นผู้บริสุทธิ์จริงๆ นอกจากนี้ หากปราศจากนาง ข้าเองก็คงไม่ตั้งครรภ์เด็กคนนี้แล้ว”
ลู่หมิ่นฮุ่ยมองหน้าท้องที่นูนขึ้นเล็กน้อยของตนเอง ในดวงตาคือรอยยิ้มที่ไม่อาจเก็บกลั้น นางเอ่ยอีกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง