“หลายปีมานี้เขาไม่เคยชอบพอแม่นางคนไหนมาก่อน ยามนี้ยากนักกว่าจะมีแม่นางที่ชอบ ไยท่านต้องคัดค้านความสัมพันธ์ของพวกเขาด้วย แบบนี้มิเท่ากับทำลายความสัมพันธ์ระหว่างพวกท่านแม่ลูกหรือเพคะ?”
“นอกจากนี้...ยามนี้เกรงว่าคนที่ชอบพอแม่นางซ่งจะไม่ได้มีแค่ฉู่อ๋องเพียงคนเดียว”
“อันที่จริงหลังพิธีล่าสัตว์ครั้งนั้น ข้าก็รู้แล้วว่าถังเสวี่ยหนิงไม่เหมาะสมจริงๆ แต่ถังฮูหยินจงใจเข้าวังมาขอร้อง ข้าจึงอดทนรอดูต่อไป ตอนนี้กลายเป็นเช่นนี้เสียแล้วก็ยิ่งไม่เหมาะสมกับฉู่อ๋อง”
ฮองเฮาเอ่ยขึ้นช้าๆ สาเหตุที่วันนี้โมโหเช่นนี้ก็เพราะรู้สึกว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น เหล่าสนมในวังหลายคนล้วนแต่เยาะเย้ยเสียดสีนาง ทำให้นางเสียหน้า
“แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าหลิงไท่ซือจะกลับเมืองหลวงแล้ว? หลานสาวของเขาหลิงเชี่ยนเอ๋อร์เอ๋อร์คุ้นเคยกับฉู่อ๋องมาตั้งแต่เล็ก ข้าไม่รู้เหมือนกันว่าในใจจวินถิงคิดอย่างไรกันแน่”
ลู่หมิ่นฮุ่ยอึ้งไป “ข้าจำได้ว่าแม่นางคนนั้นหน้าตางดงามมาตั้งแต่เล็ก ชอบตามหลังฉู่อ๋องอยู่ทั้งวัน ยามนั้นยังเคยพูดเย้าว่าวันหน้าจะให้ทั้งคู่แต่งงานกัน”
“แต่ภายหลังหลิงไท่ซือย้ายไปจากเมืองหลวง ตอนนี้จะกลับมาแล้วงั้นหรือ?”
……
ณ จวนอัครเสนาบดี
ถังเสวี่ยหนิงถูกลงโทษให้คุกเข่าอยู่ในห้องบรรพชน สีหน้าเต็มไปด้วยความไม่ยินยอมพร้อมใจ
“ท่านแม่ ลูกไม่ได้ทำอะไรผิด ผู้ลี้ภัยพวกนั้นป่าเถื่อนไร้เหตุผลไปก่อเรื่องเอง เกี่ยวอันใดกับข้า?”
“ข้าก็แค่สงสารพวกเขา อยากให้พวกเขาได้กินดีๆ หน่อย เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยชัดๆ โยนความรับผิดชอบทั้งหมดมาให้ข้าได้อย่างไรกัน?”
ถังฮูหยินมองถังเสวี่ยหนิงที่ไม่ยอมแพ้ ดวงตาสะท้อนความอับจนปัญญาที่ลูกรักไม่เป็นดังใจหวัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง