“ดูสิ ซ่งรั่วเจินมาแล้ว”
“คราวนี้สาเหตุที่การแจกโจ๊กของถังเสวี่ยหนิงก่อให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลเช่นนี้ก็เพราะอยากเอาชนะซ่งรั่วเจิน คิดไม่ถึงว่าจะก่อให้เกิดเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ ไม่รู้ว่าวันนี้จะมาหรือไม่?”
“ต้องยอมรับว่าซ่งรั่วเจินมีฝีมือทีเดียว ไม่อย่างนั้นจะทำให้ฉู่อ๋องประทับใจในตัวนางได้อย่างไร?”
ชั่วขณะที่คุณหนูทั้งหลายในงานเห็นซ่งรั่วเจิน ความรู้สึกหลากหลายปนเป
คิดถึงตอนแรกที่นางถูกถอนหมั้น ใครต่อใครล้วนคิดว่านางโชคร้ายทั้งยังขวัญกล้าเทียมฟ้า ผู้ใดเลยจะคาดว่าในไม่ช้านางจะไปเข้าตาฉู่อ๋อง ส่วนหลินจือเยว่ที่แต่เดิมเริ่มเข้ามามีอำนาจในราชสำนักกลับตกต่ำกลายเป็นนักโทษ ช่างชวนให้คนทอดถอนใจโดยแท้
“รั่วเจิน”
ฉู่จวินถิงเห็นซ่งรั่วเจินมาแล้วก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหา
ใบหน้าซ่งรั่วเจินแฝงรอยยิ้ม มือถือของขวัญวันเกิดสำหรับองค์หญิงหก ถามว่า “องค์หญิงหกเล่า? ไยหม่อมฉันจึงไม่เห็นเลยเพคะ?”
“วันนี้เป็นวันเกิดของนาง บอกว่าอยากแต่งตัวดีๆ สักหน่อย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มา” ฉู่จวินถิงยิ้มบาง
พี่น้องตระกูลซ่งทั้งสามคนเห็นฉู่อ๋องกับน้องสาวตนเองคุยกันอย่างเป็นกันเองเช่นนี้ ดูเหมือนเป็นถ้อยคำเรียบง่ายไม่กี่ประโยค บรรยากาศระหว่างทั้งคู่กลับคุ้นเคยผ่อนคลายเป็นอย่างมาก พวกเขาหันมาสบตากันโดยไม่รู้ตัว ล้วนกระจ่างแจ้งแก่ใจดี
“คารวะฉู่อ๋อง”
คนทั้งสามแสดงคารวะ น้องหญิงห้าเคยชินกับการไม่แสดงคารวะ แต่พวกเขาทำเช่นนั้นไม่ได้
“ไม่ต้องมากพิธี” สีหน้าฉู่จวินถิงเผยความอ่อนโยนเป็นมิตร
ผู้คนรอบข้างเห็นฉู่อ๋องที่เย็นชามาแต่ไหนแต่ไรแสดงสีหน้าอบอุ่นเช่นนี้ ดวงตาก็สะท้อนความตกตะลึงออกมาโดยไม่รู้ตัว
ความแตกต่างนี้จะชัดเจนเกินไปแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง