“หมอหลวง ท่านรีบดูอาการน้องสาวของข้าเถอะว่าเป็นเช่นไร?” ถังหงจี้รีบพูด
หมอหลวงขยับขึ้นไปข้างหน้าเร็วรี่ จับชีพจรถังเสวี่ยหนิง จากนั้นสีหน้าเคร่งขรึมพลันมลายหายไป เอ่ยว่า
“คุณชายถังไม่จำเป็นต้องกังวล แม่นางถังเพียงแต่ไฟตับรุนแรง ม้ามและท้องไม่สู้ดี สองวันนี้ไม่ได้กินอาหารดีๆ กลางคืนไม่ได้พักผ่อนดีๆ จึงเป็นหวัด”
“ภายในภายนอกปะทะกัน พลังชั่วร้ายเข้าสู่ร่างกาย อีกเดี๋ยวข้าจัดเทียบยาให้ กลับไปแล้วพักผ่อนดีๆ ก็ไม่เป็นไรแล้ว”
เพิ่งสิ้นคำหมอหลวง ถังหงจี้ที่ทีแรกยังมีความหวังหลายส่วน สีหน้าไม่สบอารมณ์มากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เขามองทางซ่งรั่วเจินอย่างเหลือจะเชื่อ หมอหลวงถึงขั้นพูดเหมือนนางทุกกระเบียดนิ้ว!
นี่เป็นไปได้เยี่ยงไร?
“ท่านพูดจริงหรือ?” ถังหงจี้ถามไล่เรียงอย่างอดไม่ได้
หมอหลวงพยักหน้าลง รู้สึกสงสัยภายในใจมากยิ่งขึ้น ทั้งๆ ที่เขาพูดว่าแม่นางถังไม่เป็นอะไรร้ายแรง คุณชายถังได้ยินแล้วน่าจะดีใจถึงจะถูก เหตุใดมองดูท่าทางแล้วแปลกเช่นนี้?
ทันใดนั้น เขาถึงขั้นสงสัยขึ้นมาว่าตนเองตรวจอาการผิดไปหรือไม่ ครู่ต่อมาตรวจซ้ำอีกครั้ง เอ่ยว่า “แม่นางถังน่าจะมีแผลทั้งภายในภายนอกปาก เป็นอาการโมโหหนัก”
ทุกคนได้ยิน นี่เหมือนกันเลยมิใช่หรือ!
“แม่นางซ่งพูดไม่ผิดไปเลยแม้แต่น้อย! นางเป็นวิชาแพทย์จริง มิหนำซ้ำยังบอกอาการของโรคทั้งหมดออกมาได้ด้วย”
“อาการป่วยของคุณชายใหญ่และคุณชายรองสกุลซ่งก่อนหน้านี้ หมอทั้งเมืองหลวงล้วนมาดูอาการแล้ว พูดว่าหมดหนทางรักษา ทว่าต่อมาไม่รู้เพราะเหตุใดจึงหายดีแล้ว”
“ตอนนั้นมีคนพูดว่าสกุลซ่งมีหมอเทวดา แต่สืบอยู่นานก็ไม่ได้ข่าวอะไร คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแม่นางซ่ง!”
“เรียนวิชาแพทย์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่แม่นางซ่งทำเพื่อรักษาพี่ชายของตน ใส่ใจดูแลมากขนาดนี้ ทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ มิน่าเล่าพี่น้องสกุลซ่งจึงปกป้องนางถึงเพียงนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง