“ใช่แล้วเพคะ แม่นางหลิงเป็นถึงหลานสาวของหลิงไท่ซือ อุปนิสัยใสซื่อมีเมตตา ยังเคยเข้าสนามรบอีกด้วย เป็นสตรีที่ไม่ด้อยไปกว่าบุรุษ”
“ก่อนหน้านี้ฉู่อ๋องอยู่ในสนามรบมาโดยตลอด หากตบแต่งแม่นางหลิง เวลาปกติจะต้องมีเรื่องให้พูดคุยกัน ไม่คล้ายแม่นางในห้องหอ ไม่เคยพบเห็นโลกกว้าง”
ใบหน้าฮองเฮาประดับยิ้ม เมื่อวานนางได้เห็นหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ แม่นางคนนี้ไม่เพียงรู้มารยาท ต่อให้มอบของขวัญก็มอบได้ตรงใจนาง เพียงมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นแม่นางฉลาดคนหนึ่ง
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงมารดาของหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ นางรู้จักมานานหลายปี หลายปีมานี้ครอบครัวของหลิงไท่ซือเองก็รักษาการณ์อยู่ชายแดนเพื่อราชสำนัก สร้างชื่อเสียงมานาน
ไม่เพียงแค่นี้ บิดาของหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ยังเป็นแม่ทัพ ทำผลงานในการทำสงคราม ขอเพียงจวินถิงแต่งงานกับนาง สกุลหลิงจะต้องสนับสนุนเขาแน่
เทียบกับสกุลซ่ง ย่อมช่วยได้มากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ฮ่องเต้สบมองฉู่จวินถิงแวบหนึ่ง เห็นชัดว่าพวกเขาสองแม่ลูกไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้มาก่อน
สำหรับเรื่องสำคัญเช่นนี้ แต่ไหนแต่ไรมาจวินถิงล้วนเก็บเงียบไว้อย่างเข้มงวด
“ฉู่อ๋อง เจ้าชอบแม่นางสกุลซ่งหรือ?”
ฮ่องเต้เอ่ยปากถาม ใบหน้าน่าเกรงขามไม่อาจอ่านอารมณ์ใดออกมาได้ อีกทั้งยังหยั่งเดาความคิดภายในใจของเขาไม่ได้
ฉู่จวินถิงเองก็ไม่ปิดบัง “พ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ”
“ลูกกับซ่งรั่วเจินมีใจให้กัน นอกจากนางแล้ว ลูกไม่คิดแต่งงานกับผู้อื่น”
“ฉู่อ๋อง!”
ฮองเฮาเห็นฉู่อ๋องถึงขั้นยังไม่เปลี่ยนคำพูด ร้อนใจอย่างอดไม่ได้
“ฝ่าบาท พระองค์อย่าฟังเขาพูดจาเหลวไหลเลยเพคะ เขาถูกเล่ห์เหลี่ยมยั่วยวนของซ่งรั่วเจินทำให้ลุ่มหลง!”
“ซ่งรั่วเจินคนนั้นเป็นสตรีเคยถอนหมั้นมาก่อน หากรู้หลักการมีมารยาท ก็สมควรรู้ว่าอะไรคือนางสามารถเกาะได้ อะไรไม่คู่ควรกับนาง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง