ฉู่เทียนเช่อลังเลไปชั่วขณะจึงกล่าวว่า “วันนี้ของขวัญขอบคุณก็นำมาส่งแล้ว ข้ายังมีธุระที่จวน คงต้องขอตัวกลับก่อน”
คนตระกูลซ่งอยากให้เช่ออ๋องกลับไปใจจะขาด ได้ยินแบบนี้ก็แสนจะดีใจ แต่สีหน้ากลับดูไม่ออกเลยสักนิด
“น้อมส่งเช่ออ๋อง”
ซ่งรั่วเจินมองแผ่นหลังที่รีบร้อนจากไปของเช่ออ๋อง ในใจก็อดนึกขันไม่ได้ ก่อนหน้านี้ตอนที่เช่ออ๋องมายังมีท่าทางเหมือนทุกอย่างอยู่ในการควบคุมมั่นอกมั่นใจนักหนาอยู่เลย
ผู้ใดจะคาดว่าชั่วเวลาไม่นานก็ต้องรีบร้อนกลับไปเพราะเกิดเรื่องวุ่นวายในเรือนหลังเสียแล้ว
น่าขันเสียจริง!
ฉู่จวินถิงเห็นฉู่เทียนเช่อจากไปแล้ว ซ่งรั่วเจินกลับยังคงมองทิศทางที่เขาจากไปทั้งยังมองส่งจนลับสายตาจึงถามขึ้นอย่างอดไม่อยู่
“คนไปแล้ว เจ้ายังมองไม่พออีกหรือ?”
ซ่งรั่วเจินได้สติคืนมา ได้ยินน้ำเสียงหึงหวงในคำพูดประโยคนั้น คิ้วบางจึงเลิกขึ้นน้อยๆ “ความจริงเช่ออ๋องมาขอบคุณวันนี้ก็เป็นแค่ข้ออ้างเท่านั้นเอง”
“หืม?”
“เขามาหาหม่อมฉันต่างหากเพคะ” ความขบขันวาบผ่านดวงตาซ่งรั่วเจิน “เขาบอกว่าถ้าหม่อมฉันคบหากับท่านอ๋องจริงๆ ฮองเฮาจะต้องคอยจับผิดหม่อมฉันอย่างแน่นอน ถึงตอนนั้นหม่อมฉันคงได้ทุกข์ใจไม่รู้จบ”
“ถ้าคบหากับข้าจริงๆ อะไรกัน?”
ฉู่จวินถิงจับปัญหาในคำพูดประโยคนั้นได้ รีบดึงมือซ่งรั่วเจิน น้ำเสียงค่อนข้างร้อนรน “ตอนนี้พวกเราคบหากันปลอมๆ อยู่หรือไร?”
ซ่งรั่วเจินสะบัดมือเขาออกพลางเชิดปลายคางไปอีกด้าน “พวกเราไม่ได้คบกันอยู่สักหน่อยเพคะ”
คิ้วคมของฉู่จวินถิงเลิกขึ้น สงสัยเขาต้องหาทางกำหนดสถานะให้ชัดเจนโดยเร็วเสียแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง