หลังจากได้เจอหลิงเชี่ยนเอ๋อร์เมื่อวานนี้ ซ่งรั่วเจินก็ตระหนักว่าเรื่องราวบางอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว
หลังกลับมานางก็ใคร่ครวญอยู่นานมาก สำหรับคนตระกูลซ่งที่อยู่ในเมืองหลวงตอนนี้ยังไม่มีอันตราย ระหว่างหลิงเชี่ยนเอ๋อร์กับพวกเขาไม่ได้ข้องเกี่ยวกันมากจนเกินไป
แต่คนที่มีโอกาสเกี่ยวข้องมากที่สุดกลับเป็นซ่งหลิน!
เมืองผิงหยางเดิมก็ตั้งอยู่ใกล้กับชายแดน ซ่งหลินยังอยู่บริเวณนั้น ก่อนหน้านี้ได้รับบาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ในบ้านชาวนา ผ่านมานานปานนี้ยังคงไร้ความเคลื่อนไหว เห็นได้ว่าต้องมีปัญหาในเรื่องนี้
แม้ว่าหลังจากทะลุเข้ามาในนิยายจะไม่เคยพบซ่งหลิน แต่จากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม ซ่งหลินเป็นพ่อที่ชาญฉลาดมากปัญญาเสมอมา
ตระกูลซ่งสามารถมีฐานะในวันนี้ได้ล้วนเป็นเพราะซ่งหลินและท่านปู่ ขณะที่เขากับท่านแม่รักใคร่กันลึกซึ้ง รู้ทั้งรู้ว่าท่านแม่จะต้องเป็นห่วงเขามาก เมื่อเขาได้สติมาก็ควรให้คนนำข่าวมาแจ้งเป็นอันดับแรก
สาเหตุที่ไม่มาส่งข่าว หมายความว่ามีอันตรายที่พวกตนไม่รู้อยู่
นี่ยังเป็นสาเหตุที่นางไม่ได้เป็นฝ่ายไปตามหาซ่งหลิน
โชคชะตาของมนุษย์แต่ละคนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยมักกระทบต่อความเป็นไปของภาพรวม ด้วยเหตุนี้ หลังรู้ว่าสามารถกลับมาอย่างปลอดภัย นางจึงไม่คิดจะสอดมือ
แต่ตอนที่ทำนายเมื่อวานนี้ นางกลับพบว่าคำทำนายเปลี่ยนไปแล้ว สถานการณ์ของท่านพ่อเปลี่ยนเป็นอันตรายกว่าเดิมมาก
ฉู่จวินถิงเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของซ่งรั่วเจินก็ตระหนักได้ถึงความผิดปกติ หลังจากนางอธิบายต้นสายปลายเหตุ จิตใจก็เปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง
“ข้าส่งคนไปตามหาแม่ทัพซ่งแล้ว น่าจะหาคนพบเร็วๆ นี้ จะต้องพาเขากลับมาอย่างปลอดภัยให้ได้”
ซ่งรั่วเจินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังบอกความตั้งใจของตนเองออกมา “หม่อมฉันตั้งใจว่าจะไปด้วยตัวเองสักครั้ง”
“เจ้าจะไปด้วยตัวเอง? นี่อันตรายเกินไปแล้ว” ฉู่จวินถิงขมวดคิ้วมุ่น “ตอนนี้ระหว่างทางมีผู้ลี้ภัยที่หนีภัยพิบัติมาจำนวนมาก โจรลักเล็กขโมยน้อย โจรดักปล้นก็มีมากมาย เจ้ายังไม่รู้วรยุทธ์ ถึงจะพาคนไปด้วยก็ไม่ปลอดภัย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง