จางเหวินฟังอวิ๋นหงหล่างที่กล่าวหาอย่างมั่นใจ แววตาจึงเริ่มแสดงความเย้ยหยัน
“แค่ให้ท่านรอเดี๋ยวเดียวกลับโกรธขนาดนี้ หลายปีก่อนหน้าข้ารอคอยมานานกว่านี้มาก แต่ก็ไม่ได้เป็นเช่นท่าน ช่างไม่มีความอดทนแม้แต่น้อย”
อวิ๋นหงหล่างโกรธจัด “เจ้าพูดอะไรนะ?”
“หูตึงจริงๆ แม้แต่คำพูดก็ยังได้ยินไม่ชัด!” สีหน้าของจางเหวินเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม “คราวหน้าเลือกบ่าวรับใช้ที่ฉลาดกว่านี้มาอยู่ข้างกายเสียสิ จะได้พูดย้ำรอบสองให้ท่านฟัง”
บรรยากาศที่ตึงเครียดในตอนแรกถูกทำลายลงด้วยสองประโยคของจางเหวิน จนบางคนกลั้นหัวเราะไม่อยู่
อวิ๋นหงหล่างเคยถูกจางเหวินทำให้อับอายเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
เห็นได้ชัดว่าในอดีตจางเหวินมีนิสัยดีมาก เขาพูดอะไรก็มักได้ตามนั้น มีน้อยครั้งที่ทะเลาะกันก็เพื่อลูก เขาก็สามารถเข้าใจได้
ตั้งแต่นางขอหย่าเมื่อไม่นานนี้ก็กลายเป็นเหมือนเม่น ไม่ว่าจะพูดอะไรล้วนโต้กลับ ยามนี้คำพูดยิ่งฟังดูไม่เข้าหูมากขึ้นไปอีก!
“ยามนี้เจ้าช่างไม่รู้ความเอาเสียเลย เสียมาดความเป็นนายหญิงไปหมดแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่ลูกๆ ถูกสอนให้เสียคนกันหมด!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ จางเหวินก็เหลือบมองไปที่อวิ๋นเนี่ยนชูและถามว่า "ยามที่เจ้ามาถูกรังแกหรือไม่?"
“ไม่เจ้าค่ะ ญาติผู้พี่ปกป้องข้า” อวิ๋นเนี่ยนชูส่ายศีรษะ นางหมดหวังกับบิดาอย่างสิ้นเชิงแล้ว
เมื่อจางเหวินได้ยินก็เข้าใจทันทีว่าต้องได้รับความไม่เป็นธรรมมาเป็นแน่ เพียงอวิ๋นเฉิงเจ๋อคอยขัดขวางไว้ ความโกรธในใจจึงทวีขึ้น "ท่านช่างสอนลูกได้ดีเสียจริง สอนเสียจนบุตรสาวยังไม่ทันออกเรือนก็คิดหาทางเอาตัวไปเกาะผู้ชายก่อนแล้ว"
“วิธีสั่งสอนเช่นนี้ ข้าทำตามไม่ได้ และก็ไม่คิดจะเรียนรู้ด้วย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง