เมื่อซ่งเยี่ยนโจวเอ่ยปากสอบถาม สายตาทุกคนก็ต่างจับจ้องมายังซ่งรั่วเจิน พวกเขาในตอนนี้ไม่กล้าบุ่มบ่ามรบกวนแล้ว
ฉู่จวินถิงก็เป็นห่วงดุจเดียวกัน เขารู้ว่าวิชาแพทย์ของรั่วเจินนั้นไม่ธรรมดา เก่งกาจกว่าหมอหลวงในวังหลวงมากนัก ถ้านางบอกว่าช่วยไม่ได้ก็แสดงว่าหมดหนทางแล้วจริงๆ
“ยังช่วยได้”
ซ่งรั่วเจินพูดโดยที่มือยังเคลื่อนไหวไม่หยุด นางลังเลไปชั่วครู่ก็หยิบยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งออกมายัดเข้าไปในปากของชายผู้นั้น
ซ่งเยี่ยนโจว “...” อีกแล้ว?
ซ่งรั่วเจินรู้ว่าตนเองนำสิ่งของมากมายติดตัวมาเช่นนี้จะทำให้คนสงสัย แต่ช่วยชีวิตคนสำคัญกว่า อย่างไรเสียแค่พูดจาส่งเดชไม่กี่ประโยคก็สามารถกลบเกลื่อนเรื่องนี้ได้แล้ว
ตั้งแต่นางทะลุมิติมาก็มีมิติขนาดเล็กเป็นของตัวเอง ยาเอย ยันต์เอย ยามปกติล้วนเก็บไว้ในนั้น นับว่าสะดวกมากทีเดียว
หลังจากชายหนุ่มที่มีท่าทางอ่อนแอสุดขีดกลืนยาเม็ดนั้นลงไปก็รู้สึกว่าความเจ็บปวดแต่เดิมบรรเทาลงบ้าง การหายใจก็ไม่ได้ยากลำบากถึงเพียงนั้นอีกแล้ว
“ส่งคนไปหารถม้าหรือยัง?” ฉู่จวินถิงถาม
จ้าวเจียงพยักหน้า “เรียนท่านอ๋อง ส่งคนไปจัดการแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ให้ข้าฟังอย่างละเอียดซิ” ฉู่จวินถิงเอ่ยเสียงขรึม
วันนี้ตั้งใจมาจับไต้ซือเทียนจีโดยเฉพาะ คิดไม่ถึงว่าฝ่ายตรงข้ามจะชิงสังหารคนปิดปาก เบาะแสมาถึงตรงนี้ก็ขาดช่วงไปเสียแล้ว
แต่เรือนตรงหน้าตั้งอยู่กลางเมือง คนที่อาศัยอยู่ละแวกใกล้เคียงหากไม่ใช่คหบดีก็เป็นชนชั้นสูง หาใช่ชาวบ้านธรรมดาทั่วไป จึงได้แต่ส่งคนไปตรวจสอบชื่อเจ้าของเรือนหลังนี้
“ท่านอ๋อง ตอนที่พวกกระหม่อมมาถึงเมื่อครู่ก่อน พวกเขาดูเหมือนจะขัดแย้งกันเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง