พี่ใหญ่ถูกลอบโจมตีจนเกือบไม่รอดชีวิตกลับมา หลังกลับมาแล้วขาทั้งสองข้างยังพิการ ท่านพ่อก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย
ถ้ามีคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้...
“ส่วนจิ่งเซิน เขาได้ทำการค้าบ่อยๆ เชี่ยวชาญการติดต่อสัมพันธ์กับผู้คน พวกเจ้าเดินไปทางไปด้วยกันสามารถปลอมเป็นกลุ่มพ่อค้าที่ไปค้าขาย ผู้คนจะได้ไม่สงสัยโดยง่าย” ซ่งเยี่ยนโจวกล่าว
ซ่งจิ่งเซินพยักหน้ารัวๆ “ใช่แล้ว มีข้าอยู่ด้วย สามารถตัดความยุ่งยากไปได้มากที่สุดแล้ว!”
ทุกคนล้วนเข้าใจเรื่องนี้ดี ยามออกไปข้างนอก การมีไหวพริบในการจัดการเรื่องราวเฉพาะหน้าสามารถลดปัญหาได้ นอกจากนี้ ซ่งจิ่งเซินก็ยังมีประสบการณ์ พวกเขาไม่จำเป็นต้องแสดงละครด้วยซ้ำ แค่นำกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางก็สามารถตบตาผู้คนได้อย่างง่ายดาย
กู้หรูเยียนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกว่าปลอดภัยขึ้นมากจึงกล่าวว่า “เจินเอ๋อร์ ทำตามที่พี่ใหญ่เจ้าพูดเถอะนะ? เช่นนี้พวกข้าจะได้คลายใจ”
ซ่งรั่วเจินเหลือบมองพวกซ่งจืออวี้สองฝาแฝดก็เห็นพวกเขาพยักหน้าเป็นบ้าเป็นหลังเหมือนลูกไก่จิกข้าวสารกระนั้น นางกล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าค่ะ งั้นประเดี๋ยวค่อยมาดูกันว่าต้องเตรียมสิ่งใดไปบ้าง”
“น้องหญิงห้า เรื่องนี้เจ้ายกให้เป็นหน้าที่ข้าได้เลย พี่สี่รับรองว่าจะจัดการให้เจ้าอย่างดี สิ่งของจำเป็นไม่ตกหล่นไปแม้แต่อย่างเดียว!”
ซ่งจิ่งเซินตบอกรับรอง “ข้าจะได้เตรียมกลุ่มพ่อค้าไปพร้อมกันเสียเลย เดินทางทางน้ำ พวกเรามีท่าเรือและยังมีเรือ สะดวกเป็นที่สุดแล้ว ทั้งยังไม่ลำบากขนาดนั้น”
“ชายแดนไม่ได้เจริญรุ่งเรืองเหมือนเมืองหลวง มีสิ่งของที่ขาดแคลนมากมาย เดินทางทางน้ำสามารถขนสิ่งของจำนวนมากไปด้วย ทั้งยังไม่ทำให้คนสงสัย ตอนออกเดินทางแค่บอกว่าลงใต้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปที่ใดกันแน่ จะได้ค้าขายนิดๆ หน่อยๆ ไปพร้อมกันด้วย”
“สมกับที่เป็นพี่สี่ มีหัวด้านค้าขายเป็นที่สุดแล้ว!”
ซ่งรั่วเจินอดชมเชยไม่ได้ แม้ว่าจุดมุ่งหมายที่แท้จริงในการเดินทางครั้งนี้คือช่วยเหลือท่านพ่อ แต่พี่สี่ก็ยังไม่ทอดทิ้งการค้าขาย
ซ่งจิ่งเซินเลิกคิ้ว “ในเมื่อบอกคนนอกว่าไปค้าขายก็ต้องแสดงให้เหมือนหน่อยสิ ปกติข้าก็เดินทางไปค้าขายบ่อยๆ อยู่แล้ว แบบนี้กลบเกลื่อนสายตาคนได้ดีที่สุดแล้ว”
“ความจริงช่วงนี้ในเมืองหลวงมีคนจับตามองข้าอยู่ ดังนั้นตอนออกเดินทางข้าคิดว่าจะปลอมตัวเป็นสาวใช้เพื่อกลบเกลื่อนสายตาผู้คน จะได้ไม่ถูกใครจับตามอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง