“ซ่งรั่วเจิน เจ้าอย่าทำตัวไม่รู้ดีชั่วเช่นนี้ วันนี้ข้าให้โอกาสเจ้ารักษาก็คือให้เกียรติเจ้า!”
“ถ้าฉู่อ๋องรู้ว่าเจ้าไปยั่วยวนเช่ออ๋องลับหลังเขา เจ้าคิดว่าฉู่อ๋องยังจะชอบเจ้าอยู่งั้นรึ?”
ซ่งรั่วเจินได้ยินอย่างนั้นก็แทบจะหัวเราะออกมา นางยั่วยวนเช่ออ๋อง?
“พระชายาเช่ออ๋อง ท่านคิดว่าหม่อมฉันสมองไม่ดีหรือสายตามีปัญหาหรือเพคะ?”
“ฉู่อ๋องยังไม่แต่งงาน กล้าหาญชาญศึกทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นบุรุษรูปงามของเมืองหลวง ไยหม่อมฉันจะต้องปล่อยมือจากฉู่อ๋องไปยั่วยวนเช่ออ๋องด้วยเพคะ?”
เมื่อซ่งจืออวี้มาหาน้องหญิงห้าเป็นเพื่อนฉู่อ๋อง ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ก็ได้ยินคำพูดเช่นนี้ดังออกมาจากข้างใน เขาเบิกตากว้างอย่างอดไม่อยู่
เหตุใดสตรีวิปลาสผู้นี้จึงมาใส่ร้ายน้องหญิงห้าส่งเดชเช่นนี้!
“เช่ออ๋องไม่ดีตรงไหน? ฉู่อ๋องเย็นชาเสียขนาดนั้น เหมือนก้อนหินไม่มีผิด ถ้าไม่ระวังก็อาจเสียชีวิตเอาได้ ไหนเลยจะอ่อนโยนเหมือนเช่ออ๋อง?”
พระชายาเช่ออ๋องแย้งกลับมาอีกประโยค “อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะว่าเจ้ามันไม่รู้จักพอ!”
“ฉู่อ๋องหน้าตาหล่อเหลาปานนั้น ถึงเขาจะตีหน้าเย็นชาทั้งวันแต่ก็เป็นชายรูปงามที่หาได้ยากนักในโลกนี้ ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ยืนอยู่ตรงนั้นก็เป็นทิวทัศน์ที่น่าประทับใจแล้วเพคะ!”
“คนที่ดีงามปานนี้ ยังจะต้องการความอ่อนโยนไปทำไมกัน หม่อมฉันว่าพระชายาไม่ได้กินองุ่นจึงหาว่าองุ่นเปรี้ยวมากกว่าเพคะ!”
ซ่งรั่วเจินไม่รู้จริงๆ ว่าจวนเช่ออ๋องมีฮวงจุ้ยอย่างไรกันแน่ คนในนั้นแต่ละคนถึงได้หยิ่งยโสกันนัก!
แม่นางทั้งเมืองหลวงมายืนอยู่ด้วยกัน ขอแค่เป็นคนที่ตาไม่บอดก็รู้ว่าระหว่างฉู่อ๋องกับเช่ออ๋องควรเลือกใคร!
สีหน้าพระชายาเช่ออ๋องเปลี่ยนไปเล็กน้อย กล่าวอย่างหัวเสียว่า “ผู้ใดจะไปรู้ว่าเจ้าคิดอย่างไร? อาจทำไปเพื่อพิสูจน์ว่าตัวเองมีเสน่ห์เหลือล้นก็ได้ แต่เจ้าก็ไม่คิดบ้างว่าก่อนหน้านี้หลินจือเยว่ก็ยังไม่ต้องการเจ้าเลยไม่ใช่รึ?”
“ข้าแนะนำว่าเจ้าสงบเสงี่ยมเจียมตัวไว้หน่อยจะดีกว่า ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าแอบยั่วยวนเช่ออ๋องอีก จะต้องทำให้เจ้าได้เห็นดีกันแน่!”
เดิมทีซ่งจืออวี้อยากบุกเข้าไปช่วยพูดจาแทนน้องสาวตัวเอง ต่อมาก็อยากเตือนน้องหญิงห้าว่า แม่นางที่ยังไม่ออกเรือนคนหนึ่งกลับกล่าวคำพูดตรงไปตรงมาเช่นนี้ ถ้าท่านอ๋องมาได้ยินเข้าจะทำอย่างไรกันเล่า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง