ซ่งรั่วเจินฟังคนข้างกายเฉียนหย่าหลินใส่ร้ายตนเอง ถ้อยคำน่าขันขึ้นทุกประโยค ดวงตางามฉายแววเยาะหยัน
เดิมเข้าใจว่าแม่นมกับสาวใช้เหล่านี้เป็นเพียงข้ารับใช้ คิดไม่ถึงว่ายังเป็นนักแต่งเรื่องอีกด้วย!
ดูปากนั่นสิ แต่งเรื่องเก่งไม่น้อยหน้ากันเลยทีเดียว!
แต่ถ้าจะแสดงละครแข่งกัน นางยังจะแพ้อีกงั้นรึ?
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันกับพระชายาไม่เคยรู้จักกัน ทั้งยังไม่เคยเจอกันมาก่อน”
“วันนี้พระชายามาเยือนกะทันหัน ทั้งยังพาแม่นมสาวใช้มาด้วยมากมายท่าทางน่ากลัวนัก หม่อมฉันเพิ่งมาถึง พระชายาก็สั่งให้ข้ารับใช้ในจวนทุกคนออกไป”
“หลังจากพวกเขาไปกันหมดแล้ว พระชายาก็หาว่าหม่อมฉันจงใจยั่วยวนเช่ออ๋อง ที่ช่วยคนในเขตล่าสัตว์ก็เพราะต้องการสร้างบุญคุณเพื่อหวังผลตอบแทน”
“หากไม่ใช่เพราะหม่อมฉันเที่ยวตามยั่วยวน ท่านอ๋องก็ไม่มีทางมาขอบคุณถึงจวนด้วยตนเอง บอกว่าท่านอ๋องไม่ใช่คนที่จะมาขอโทษถึงจวนด้วยตัวเองเพคะ!”
ฉู่เทียนเช่อใจกระตุกวูบ เฉียนหย่าหลินเสียสติไปแล้วจริงๆ ด้วย คำพูดพรรค์นี้ก็ยังกล้าพูดออกมาได้!
ซ่งรั่วเจินก้มหน้า เช็ดน้ำตาที่ไม่มีอยู่จริงตรงหางตาแล้วเอ่ยว่า “หม่อมฉันไม่ได้ยั่วยวนท่านอ๋องเลยนะเพคะ จนใจที่พระชายาไม่เชื่อ ยังพูดว่าจะให้หม่อมฉันตายโดยไร้ที่กลบฝัง!”
“ตอนแรกหม่อมฉันไม่รู้ว่าไฉนพระชายาจึงสั่งให้ข้ารับใช้ทุกคนออกไป ตอนนี้ในที่สุดก็เข้าใจแล้ว พวกเขามีหลายปากพูดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น หม่อมฉันตัวคนเดียวใครเลยจะเชื่อ ทั้งยังไม่มีใครเป็นพยาน...”
ฉู่เทียนเช่อย่อมเข้าใจความหมายแฝงในวาจาซ่งรั่วเจิน เฉียนหย่าหลินเพิ่งมาถึงก็สั่งให้ข้ารับใช้ในจวนสกุลซ่งออกไป เหลือเพียงซ่งรั่วเจินคนเดียว
เรื่องนี้คนที่มีปัญญาย่อมดูออกว่ามีปัญหา เห็นได้ชัดว่าเจตนารังแกคนไม่ใช่รึ?
ดูเหมือนมีคนมากมาย แต่ทั้งหมดล้วนเป็นพวกเดียวกัน แล้วจะมีประโยชน์อันใดกันเล่า?
“เจ้ากล้าพูดเหลวไหลงั้นรึ!”
เฉียนหย่าหลินไม่คิดเลยว่าซ่งรั่วเจินจะกล้าพูดจาเหลวไหลส่งเดช นางตวาดเสียงกร้าว “ข้ามาเพราะอยากให้เจ้ารักษาโรค เจ้าไม่ยินดีรักษาข้าเองต่างหาก!”
“พระชายาดูแล้วก็สุขภาพแข็งแรงดี ไม่ทราบว่าต้องการให้หม่อมฉันรักษาโรคอันใดหรือเพคะ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง