“อะไรนะ? จงใจทำอย่างนั้นหรือ?”
กู้ฮวนเอ๋อร์มีสีหน้าตกตะลึง ดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ "ญาติผู้พี่ ท่านไปรู้อะไรมาใช่หรือไม่? "
เพราะตื่นเต้นเกินไป เสียงของกู้ฮวนเอ๋อร์จึงดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว ในชั่วพริบตา สายตาของทุกคนที่กำลังรับประทานอาหารต่างหันมาจับจ้องที่นาง
“ขอโทษเจ้าค่ะ ข้า ข้าตื่นเต้นเกินไป”
กู้ฮวนเอ๋อร์มีสีหน้ากระอักกระอ่วน รีบโบกไม้โบกมือ ทว่ากู้ชิงเหยี่ยนและกู้ชิงซิวที่อยู่ข้างๆ ได้ยินอะไรบางอย่าง ทั้งสองจึงสบตากัน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นกว่าเดิม
หลังจากมื้อเย็นผ่านพ้นไป ซ่งรั่วเจินก็ถูกท่านปู่และท่านลุงทั้งสองเรียกเข้าไปในห้องหนังสือตามคาด
กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นดังนั้นก็อยากตามเข้าไปด้วย ทว่ากลับถูกไล่ออกมาอย่างไม่ลังเล “เจ้าไปเรียกเยี่ยนโจวกับอี้อันญาติผู้พี่ของเจ้ามาเสีย”
กู้ฮวนเอ๋อร์ “…”
ไม่นานนัก ซ่งเยี่ยนโจวกับซ่งอี้อันก็มาถึงพร้อมกับกู้ชิงฉือ
เมื่อทั้งสามถูกเรียกตัวมา ก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ หรือว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้ว?
“รั่วเจิน เจ้าสงสัยว่าหลิ่วอวิ๋นเวยไม่ได้ถูกไฟคลอกตายใช่หรือไม่ แต่ถูกคนช่วยเหลือไว้?” กู้ชิงซิวตรงเข้าประเด็น
เมื่อคำพูดนี้ถูกเอ่ยออกมา บรรยากาศภายในห้องก็หนักอึ้งขึ้นหลายส่วน ทว่าไม่มีผู้ใดแปลกใจเลย
เนื่องจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยบังเอิญมากเกินไป พวกเขาจึงไม่เชื่อว่าจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญ ทว่าหากมีคนช่วยหลิ่วอวิ๋นเวยไว้จริงๆ ผู้ที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดก็คือกู้ชิงเจ๋อ
ซ่งรั่วเจินพยักหน้า "นางไม่ได้ถูกไฟคลอกตาย นางยังมีชีวิตอยู่ดีเจ้าค่ะ"
ไม่ใช่แค่สงสัย ทว่าเป็นความมั่นใจ
กู้หวยซวี่รู้สึกหนักใจ "อยู่กับเจ้าคนอกตัญญูนั่นหรือ? เขากล้าให้ที่กบดานแก่นักโทษอย่างนั้นหรือ?"
“ถูกต้องเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินกล่าวด้วยท่าทีสงบนิ่ง “ความจริงวันนี้ข้าก็คิดจะบอกเรื่องนี้กับทุกคนอยู่แล้ว เพื่อจะได้ตัดสินใจว่าควรจัดการอย่างไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง