เมื่อหวังซื่อเห็นกู้ชิงเจ๋อมีท่าทางเช่นนี้ เพียงรู้สึกผิดหวังอย่างถึงที่สุด
พวกเขาแต่งงานกันมาเป็นเวลากว่ายี่สิบปี นางให้กำเนิดบุตรให้เขาและดูแลทุกอย่างในจวน ทว่าสุดท้ายกลับไม่สำคัญเท่ากับคำพูดเพียงประโยคเดียวของหลิ่วอวิ๋นเวย
เพียงกลัวว่าหากยามนี้นางประกาศว่าจะไปแจ้งทางการ กู้ชิงเจ๋ออาจจะสังหารนางเพื่อหลิ่วอวิ๋นเวยจริงๆ! ช่างน่าขันอะไรเช่นนี้?
“ข้าจะไม่พูด” หวังซื่อเอ่ยปากช้าๆ “แม้ว่าพวกท่านจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ แต่ข้าและลูกๆ ยังอยากมีชีวิตอยู่”
กู้ชิงเจ๋อได้ยินคำพูดนี้จึงขมวดคิ้วมุ่น เพียงรู้สึกว่าหวังซื่อดูแปลกไปเล็กน้อย ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา จึงกล่าวว่า
“เจ้าจงอย่าปล่อยให้ข่าวนี้หลุดออกไป ยามนี้สถานการณ์ของอวิ๋นเวยสุ่มเสี่ยงมากพอแล้ว รอข้าหาจังหวะส่งนางออกจากเมืองหลวงได้ก็พอ ไม่มีผู้ใดล่วงรู้หรอก”
หวังซื่อกลับยิ้มอย่างกะทันหัน กล่าวว่า "นายท่าน ไม่ว่าพวกท่านจะเป็นอย่างไรข้าก็จะไม่ถามถึง แม้จะต้องอยู่ในเรือนตลอดไปก็ไม่เป็นไร"
นางรู้จักหลิ่วอวิ๋นเวยมานานขนาดนี้ จะไม่รู้ถึงนิสัยของนางได้อย่างไร?
หากตั้งใจจะจากไปจริงๆ ก็คงไม่มาที่นี่ ยามนี้นางเสียโฉมแล้ว หลังออกจากเมืองหลวงไปจะยังสามารถใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือยที่ไหนได้อีก?
เกรงว่าจะวางแผนอยู่ที่นี่ไม่ไปไหนแล้วเป็นแน่!
เมื่อได้ยินเช่นนี้ กู้ชิงเจ๋อและหลิ่วอวิ๋นเวยต่างก็รู้สึกแปลกใจ ในอดีตเมื่อหวังซื่อเห็นพวกเขาพี่น้องพบกัน มักจะไม่ค่อยพอใจนัก ท่าทีในวันนี้ทำให้ผู้คนประหลาดใจจริงๆ
“ขอเพียงให้ท่านพี่เห็นแก่การเป็นสามีภรรยามาหลายปี โปรดเขียนหนังสือหย่าร้างให้ข้าได้พาลูกๆ ออกไป”
สีหน้าของกู้ชิงเจ๋อเปลี่ยนเป็นสีซีดในทันที "เจ้ากำลังพูดจาเหลวไหลอะไร!"
“ข้าไม่ได้พูดจาเหลวไหล” หวังซื่อใจเย็นอย่างมาก หยิบกระดาษและพู่กันจากด้านข้างขึ้นมาและกล่าวว่า “ให้หนังสือหย่าร้างแก่ข้า วันนี้ข้าก็จะพาลูกๆ ออกไป ไม่เช่นนั้นท่านก็สังหารข้ากับลูกๆ เสียเถอะ”
“ยามข้ามาที่นี่ แม่นมและสาวใช้ต่างรู้ดีว่าหากข้าตายไป นายท่านคงทำลายศพได้ยาก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง