ฉู่จวินถิงมองท่าเรือตรงหน้า คิ้วคมขมวดเข้าหากันน้อยๆ อุทกภัยครานี้ประหลาดมาก ทั้งที่ไม่ใช่ฤดูกาลที่มีฝนตกชุกแบบช่วงเดือนห้าเดือนหก แต่กลับมีฝนตกต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหลายวันแล้ว
ไม่เพียงเท่านี้ อากาศหนาวปานนี้ น้ำในแม่น้ำเย็นเฉียบเสียดกระดูก คนที่ถูกน้ำท่วมกวาดไปด้วยยากจะรอดชีวิตมาได้ ถึงจะลี้ภัยมาตลอดทางก็ยังลำบากตรากตรำกว่าช่วงเวลาที่อากาศอบอุ่นหลายเท่าตัว
กู้หวยซวี่ย่อมสังเกตเห็นแล้วเช่นกัน เขาตีหน้าขรึม แววตาซับซ้อน “เงินบรรเทาภัยพิบัติจากราชสำนักส่งลงมาแล้ว แต่สถานการณ์ก็ไม่ได้ดีขึ้นสักเท่าไร”
“เรือพวกเราขนเสบียงช่วยเหลือผู้ประสบภัยมาด้วย เมืองใกล้เคียงก็เปิดยุ้งฉางแจกจ่ายเสบียงแล้ว แต่ชาวบ้านกลับยังคงอพยพลี้ภัย จะต้องมีปัญหาในเรื่องนี้เป็นแน่”
“ที่นี่อยู่ใกล้เมืองผิงหยางแล้ว พวกเราลงไปดูกันสักหน่อยดีกว่า” ฉู่จวินถิงกล่าว
“ดี”
ซ่งรั่วเจินก็สังเกตเห็นความแตกต่างระหว่างสถานการณ์ของท่าเรือตรงหน้ากับสถานที่ที่พวกนางผ่านมาก่อนหน้านี้แล้วเช่นกัน ประจวบกับพี่ห้าบอกว่าตอนนี้ถึงเวลานำเรือจอดเทียบฝั่งพอดี ทุกคนยังอุดอู้มาหลายวันจนจวนจะทนไม่ไหวแล้ว
ขึ้นฝั่งไปเคลื่อนไหวร่างกายสักหน่อย หลังจากนั้นค่อยเดินทางลงใต้ต่อไป
ขณะเดียวกัน หลิงเชี่ยนเอ๋อร์ที่อยู่บนเรืออีกลำทนไม่ไหวมาแต่แรกแล้ว
เดิมนึกว่าฉู่จวินถิงจะไปพักกับพวกซ่งจิ่งเซินแค่ไม่กี่วัน รอจนเรือหยุดเติมเสบียงก็คงกลับมาแล้ว ผู้ใดจะคาดว่าพวกเขาจะไม่หยุดพักเลยเป็นเวลาหลายวันติดต่อกัน
เดิมพวกนางยังคิดจะหยุดเรือเติมเสบียง แต่เห็นว่าเรือของตระกูลซ่งเคลื่อนที่เร็วมาก หากพวกตนหยุดพักเกรงว่าคงตามไม่ทันจึงจำต้องถอดใจ
เมื่อเห็นว่าในที่สุดเรือลำข้างหน้าก็มีทีท่าว่าจะเทียบท่าเสียที นางค่อยระบายลมหายใจออกมา
ในที่สุด!
“แม่นางหลิงอยู่แต่บนเรือมาหลายวันแบบนี้คิดว่าคงอุดอู้แย่แล้วสินะ ประเดี๋ยวลงเรือไปดูว่ามีสิ่งใดในต่างถิ่นนี้ที่ชอบใจหรือไม่ ข้าจะกำนัลให้เจ้า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง