ทุกคนสุ่มหาหอสุราแห่งหนึ่ง ไม่ว่าช่วงเวลาแบบไหนก็มักมีคนที่ร่ำรวยเงินทอง ด้วยเหตุนี้ แม้ในหอสุราจะไม่นับว่าคึกคัก แต่ก็มีคนกินอาหารกันอยู่หลายโต๊ะ
ขณะเตรียมจะรับประทานอาหาร หลิงเชี่ยนเอ๋อร์มองซ่งรั่วเจินที่ปลอมตัวเป็นสาวใช้พลางกล่าวว่า “เจ้าไปบอกให้เสี่ยวเอ้อร์ยกชามาอีกกา”
ก่อนหน้านี้นางก็สังเกตเห็นแล้วว่าสาวใช้ผู้นี้รู้วิชาแพทย์ ไม่เพียงเท่านี้ พวกฉู่อ๋องยังดูจะคุ้นเคยกับนางเป็นอย่างมาก
ราชครูกู้เป็นญาติกับตระกูลซ่ง จะรู้จักสาวใช้ของตระกูลซ่งก็ไม่แปลก แต่ด้วยนิสัยของฉู่จวินถิงก็ยังสนิทสนมกับสาวใช้คนหนึ่งมากเช่นนี้นับว่าแปลกจริงๆ
คิดไปคิดมาก็มีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียว...สาวใช้ผู้นี้เป็นคนข้างกายซ่งรั่วเจิน
คิดถึงตรงนี้ หลิงเชี่ยนเอ๋อร์ก็รู้สึกว่าน่าขัน ซ่งรั่วเจินคงกังวลว่าฉู่อ๋องจะไปชอบแม่นางคนอื่นขณะอยู่ข้างนอก แต่ตนเองไม่สามารถตามมาด้วยได้จึงให้ซ่งจิ่งเซินลงใต้มาค้าขาย ทั้งยังให้เขาพาสาวใช้ข้างกายนางตามมาด้วยสินะ?
“คิดไม่ถึงว่าซ่งรั่วเจินผู้นี้จะมีฝีมืออยู่จริงๆ!”
หลิงเชี่ยนเอ๋อร์แค่นหัวเราะ ก่อนนี้ได้ยินมาตลอดว่าฉู่อ๋องดีต่อซ่งรั่วเจินอย่างยิ่ง ปกป้องนางไปเสียทุกอย่าง กระทั่งว่าตั้งแต่ต้นจนจบล้วนเป็นฉู่อ๋องที่เป็นฝ่ายเข้าหา
ตอนนี้เห็นทีว่าคงเป็นเพราะซ่งรั่วเจินมีฝีมือสูงส่งอย่างไรเล่า!
ซ่งรั่วเจินเห็นว่าจู่ๆ หลิงเชี่ยนเอ๋อร์ก็เรียกใช้งานตนเอง ดวงตางามฉายแววประหลาดใจ สบกับสายตาที่แลดูไม่พอใจของฉู่จวินถิง คล้ายว่ากำลังจะเอ่ยปาก นางจึงชิงตอบรับก่อนว่า “ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”
เดิมก็ปลอมตัวมา จะปล่อยให้ความพยายามก่อนหน้านี้สูญเปล่าก็คงจะไม่ได้ นอกจากนี้ หลิงเชี่ยนเอ๋อร์ก็ไม่ใช่คนดีอันใด ชะตาแปลกประหลาดแบบนั้นบ่งชัดว่านางจะต้องไม่ใช่คนดีแน่นอน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง