ซ่งรั่วเจินมองกลุ่มไอมรณะที่อยู่ภายในห้อง ดวงตาแข็งกร้าว คนสารเลวรกโลกพวกนี้ เรียนวิชาศาสตร์ลี้ลับมาใช้ทำร้ายผู้คน!
ไอมรณะที่รุนแรงเช่นนี้ ไม่ว่าใครที่อยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ พลังชีวิตก็ย่อมจะถูกกัดกร่อนทีละน้อย จนมีสภาพย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ
เพราะจ้าวเฮ่าเจี๋ยเป็นชายหนุ่ม อีกทั้งยังอยู่ในวัยสิบเจ็ดปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่พลังหยางเพิ่งจะแข็งแกร่งถึงที่สุด หากเปลี่ยนเป็นหญิงสาวหรือผู้อาวุโส คงทนรับไม่ไหวและสิ้นใจไปนานแล้ว
“พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่หรือ?”
จ้าวชิงหยวนรีบรุดเข้ามาอย่างร้อนรน ทันทีที่ก้าวเข้าห้องก็พุ่งตรงไปอยู่ข้างกายจ้าวเฮ่าเจี๋ยทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใย
“เฮ่าเจี๋ย มีอะไรหรือ? เจ้าเป็นอะไรหรือไม่?”
จ้าวเฮ่าเจี๋ยส่ายหน้า พลางมองไปยังหญิงสาวตรงหน้า ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมีความรู้สึกปลอดภัยเกิดขึ้น
ตลอดหลายวันที่ผ่านมา เขารู้สึกเสมอว่าภายในห้องราวกับมีพลังงานมืดกลุ่มหนึ่งปกคลุมอยู่ แต่เมื่อเขาถามผู้อื่น ทุกคนต่างบอกว่าไม่มีอะไรแบบนั้น และถึงขั้นคิดว่าเขาป่วยหนักจนเสียสติไปแล้ว
แต่เขาเห็นมันได้จริงๆ!
ไม่เพียงแต่จะมองเห็น เขาถึงขั้นรู้สึกได้ว่าพลังงานมืดกลุ่มนั้นกำลังกัดกร่อนเขาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
ความรู้สึกเช่นนี้น่ากลัวเป็นอย่างมาก ราวกับว่าตัวเขาเป็นอาหารจานหนึ่ง ที่ถูกกัดกินทีละเล็กทีละน้อยในทุก ๆ วัน ร่างกายก็อ่อนแอลงเรื่อย ๆ และเมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป ก็จะถึงจุดจบโดยสมบูรณ์
แต่คนรอบข้างกลับไม่มีใครสักคนที่จะสามารถเข้าใจความรู้สึกของเขา แม้แต่บิดาของเขาเองก็ยังคิดว่าเขาเกิดภาพหลอนไปเอง
แต่เมื่อครู่ เขาเห็นกับตาว่าหลังจากที่หญิงสาวนางนี้ก้าวเข้ามา กลุ่มพลังงานมืดก็ราวกับพบเจอศัตรู เพียงแค่ยันต์สองแผ่น ก็สามารถขับไล่กลุ่มพลังงานมืดออกไปได้อย่างหมดสิ้น
ทั้ง ๆ ที่เขายังอยู่ภายในห้อง แต่กลับรู้สึกว่าไม่หนาวเย็นและอับชื้นเหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป ในที่สุดเขาก็ได้สัมผัสถึงความอบอุ่นที่ไม่ได้รู้สึกมานานแสนนาน
ฉู่จวินถิงก้าวไปยืนข้างซ่งรั่วเจิน “สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง