เดิมทีฉู่เทียนเช่อก็ไม่พอใจที่หลิงเชี่ยนเอ๋อร์เฝ้าหวังเพียงมาขอความช่วยเหลือจากฉู่จวินถิง ด้วยความสามารถของเขาย่อมสามารถจัดการเรื่องทั้งหมดได้
บัดนี้ได้ยินคำพูดของสองพี่น้องสกุลซ่ง นี่จึงพูด “แม่นางหลิง เป้าหมายในการมาครั้งนี้ของจวินถิงและราชครูกู้คือจัดการปัญหาอุทกภัย ช่วยเหลือราษฎร พี่ใหญ่ของเจ้ากำลังเผชิญหน้ากับอันตราย ข้าจะพาคนฝีมือดีไปช่วยเจ้าตามหาเอง”
“จวินถิง เจ้า...”
หลิงเชี่ยนเอ๋อร์ยังไม่ตัดใจดังเดิม ฉู่จวินถิงกลับเอ่ยตัดบทคำพูดของนาง “ความปลอดภัยของพี่ใหญ่เจ้าและความปลอดภัยของราษฎรมากมาย หนักเบาเยี่ยงไร เจ้าน่าจะรู้ดี”
ถ้อยคำนี้ยับยั้งคำพูดของหลิงเชี่ยนเอ๋อร์เอาไว้แล้ว ต่อให้ไม่ยินยอมก็ต้องรับปาก
“น้องสาม เจ้าจัดการสถานการณ์เป็นเช่นไรแล้ว?” ฉู่เทียนเช่อเอ่ยถาม
หลิงเชี่ยนเอ๋อร์เองก็เอ่ยปาก “ข้าได้ยินมาว่าวันนี้พวกเจ้าเริ่มแจกจ่ายโจ๊ก เช่นนั้นเมืองผิงหยางจะทำเช่นไร?”
“มีราษฎรที่ใดบ้างไม่ใช่ราษฎร? ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยของเมืองไห่เทียนส่วนหนึ่งก่อน พวกเราใกล้จะไปเมืองผิงหยางแล้ว ถึงตอนนั้นค่อยดูสถานการณ์” ฉู่จวินถิงเอ่ยขึ้น
ได้ยินดังนั้น ฉู่เทียนเช่อคิดเพียงว่าฉู่จวินถิงช่างโง่งมโดยแท้ ก่อนหน้านี้ให้เขาไปหาพ่อค้าผู้มั่งคั่งแจกจ่ายเสบียงอาหาร เขากลับไม่ยอม บัดนี้ยังไม่ถึงเมืองผิงหยางก็นำข้าวที่เอาไว้ใช้บรรเทาภัยพิบัติออกมาแล้ว ถึงตอนนั้นจะอธิบายเยี่ยงไร?
ทว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอันใดกับเขา
อาศัยเวลาหนึ่งวันนี้ เขาเข้าใจสภาพการณ์อันโหดร้ายของเมืองไห่เทียนและเมืองผิงหยางแล้ว ได้รู้ว่าสถานการณ์เลวร้ายมากเพียงใด นี่ถึงตามหลิงเชี่ยนเอ๋อร์ไปตามหาคน หลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกดึงเข้าไปเกี่ยวข้อง!
ตรงข้ามกันหากฉู่จวินถิงจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดี ไม่เพียงไม่ส่งผลเสียต่อเขา กลับยังมีประโยชน์อีกด้วย
“เช่นนั้นคืนนี้พวกเราพักผ่อนที่โรงเตี๊ยมสักหนึ่งคืน พรุ่งนี้ค่อยไปตามหาคน หลังตามหาคนแล้ว ค่อยพบกันที่เมืองผิงหยาง” ฉู่เทียนเช่อเอ่ยขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง