ซ่งจิ่งเซินได้ฟังคำพูดของน้องสาวบ้านตน ทันใดนั้นเข้าใจขึ้นมาแล้ว “หากพวกเขาได้ยินว่าสามารถหาเงินได้ จะต้องกลัวไล่ตามหลังจึงส่งเสบียงอาหารมา”
“ถึงตอนนั้นขอเพียงพวกเราพูดว่าไม่ต้องการ ทำให้ราคาเสบียงอาหารลดลงจนกลับมาเป็นราคาปกติ คาดว่าพวกเขาจะต้องเลือกขายออก ชนิดที่ว่าลดราคาขายเลยทีเดียว” ซ่งรั่วเจินเอ่ยรับ
ซ่งจิ่งเซินยกมุมปาก “เพราะหากพวกเขาส่งเสบียงอาหารกลับมา เพียงเงินค่าขนส่งก็ไม่ใช่จำนวนน้อยแล้ว”
ทุกคนได้ยินสองพี่น้องซ่งรั่วเจินพูดรับส่งกัน ดวงตาค่อยๆ ทอประกาย “นี่กลับเป็นวิธีที่ดีอย่างแท้จริง!”
“วิธีการนี้ หากสามารถทำได้ เมืองผิงหยางก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องเสบียงอาหารแล้ว!”
กู้หวยซวี่ชื่นชมอย่างอดไม่ได้ บัดนี้ขาดแคลนเสบียงอาหารที่สุด หากมีเสบียงอาหาร ปัญหาอย่างอื่นก็จะคลี่คลาย!
พวกเขาอยู่ในราชสำนักมานานหลายปี ภายในสมองเชี่ยวชาญแก้ไขปัญหาภายในราชสำนัก แต่ความเห็นของรั่วเจินในครั้งนี้ มองจากมุมของพ่อค้า ยังเป็นวิธีการที่ดีอีกด้วย!
“เรื่องนี้จะต้องปรึกษากับทางการให้ดี จากนั้นค่อยปล่อยข่าวให้พ่อค้าผู้มั่งคั่งเหล่านี้”
ซ่งรั่วเจินใคร่ครวญแล้วจึงเอ่ยปาก หันมองทางซ่งจิ่งเซิน “พี่สี่ เรือขนสินค้าของพวกเราสามารถส่งข่าวได้ว่องไวที่สุด ท่านเอาข้าวและบะหมี่ทั้งหมดบนเรือลงมา จากนั้นไปกว้านซื้อจำนวนมากที่คูเมืองแห่งอื่น”
“เริ่มแรกยังไม่ต้องพูด จะต้องปล่อยให้คนสืบ ท่านถึงแสร้งกินดื่มจนเมาและเผลอพูดออกมา...”
“วางใจได้ ข้าเชี่ยวชาญเรื่องพวกนี้มาก!” ซ่งจิ่งเซินตบอกอย่างมั่นใจ ภายในสายตาเจือรอยยิ้ม “เช่นนั้นเริ่มแรกทางการจะต้องแสร้งซื้อธัญพืชในราคาสูง ไม่สู้ซื้อจากพวกเราชุดนี้เถอะ!”
ซ่งจืออวี้เบิกตากว้างอย่างอดไม่ได้ “นี่เจ้าไม่ใช่ดื่มจนเมาในตอนนี้แล้ววิ่งไปหาเงินจากราชสำนักหรอกกระมัง?”
ซ่งจิ่งเซินหัวเราะคิกๆ มองทางฉู่จวินถิงพลางพูด “เรือลำนี้ของกระหม่อมแล่นไปแล่นมาย่อมสิ้นเปลือง นี่ล้วนทำเพื่อราชสำนักพ่ะย่ะค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง