พวกเขาทุกคนล้วนเป็นคนที่ผ่านสนามรบมาอย่างโชกโชน บัดนี้พยัคฆ์ร้ายตกที่นั่งลำบากถูกสุนัขรังแก กระทั่งยังถูกคนกลุ่มนี้ตามล่าสังหารไปทั่ว ยามนี้จึงเข่นฆ่าจนประสาทด้านชามาแต่แรกแล้ว
ซ่งหลินฉีกผ้าแถบหนึ่งลงมาพันแผลอย่างง่ายๆ แล้วถือกระบี่คมกริบกระโจนเข้าไปในวงตะลุมบอน
ขณะเดียวกัน ซ่งรั่วเจินเห็นยันต์นำทางของตนเองย้อมสีแดงบางส่วน แววตาก็พลันเปลี่ยนไปเล็กน้อย กล่าวว่า “ท่านพ่ออยู่ในอันตราย!”
สิ้นเสียงนั้น ซ่งจืออวี้และฉู่จวินถิงล้วนหน้าเปลี่ยนสี
“ท่านอ๋อง ท่านดูแลน้องสาวข้าด้วย ข้าขอล่วงหน้าไปก่อนก้าวหนึ่ง!” ซ่งจืออวี้กล่าวด้วยความร้อนใจ
ฉู่จวินถิงมองไปทางพวกอวิ๋นหยาง “เร็วเข้า ตามไปทั้งหมด จะต้องรับรองความปลอดภัยของแม่ทัพซ่งให้ได้!”
“ข้าน้อยรับบัญชา!”
พวกอวิ๋นหยางสะบัดแส้ยาวในมือ เร่งรุดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วราวติดปีก
ซ่งรั่วเจินก็ร้อนใจเช่นกัน รีบลงมาจากรถม้าแล้วมองไปทางฉู่จวินถิงโดยไม่รู้ตัว
“ขึ้นม้า พวกเราก็ตามไปเหมือนกัน” ฉู่จวินถิงยื่นมือมาให้
ฉับพลันนั้น ซ่งรั่วเจินก็ถลาขึ้นไปบนหลังม้า คนทั้งสองโผนทะยานไปท่ามกลางป่าเขา
“เคร้ง เคร้ง เคร้ง!”
พวกซ่งหลินตกอยู่ในวงล้อม ถึงยามนี้จึงตระหนักว่าฝ่ายตรงข้ามจงใจวางกับดักไว้บริเวณนี้เพื่อจับกุมพวกเขาทุกคนในคราวเดียว
“บัดซบ เจ้าสารเลวนี่จงใจล่อพวกเรามาแถวนี้แล้วจัดมือดีซุ่มรออยู่ที่นี่!” ฉีอู่ตวาดอย่างเดือดดาล
ซ่งหลินปลิดชีพคนสองคนไปอย่างรวดเร็ว พิจารณาบริเวณนั้นโดยละเอียดแล้วจึงกล่าวว่า “ทุกคนไม่ต้องตกใจไป หันหลังเข้าหากัน อย่าปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสลอบจู่โจม เคลื่อนไหวตามคำสั่งข้า”
“ขอรับ ท่านแม่ทัพ!”
ทุกคนล้วนเป็นทหารใต้บังคับบัญชาของซ่งหลิน ผ่านการร่วมเป็นร่วมตายในสมรภูมิมาแล้วจึงฝึกฝนการประสานงานกันอย่างรู้ใจได้มาแต่แรก
คำสั่งทหารหนักแน่นดุจขุนเขา เพียงซ่งหลินออกคำสั่งประโยคเดียว พวกเขาล้วนแต่ปฏิบัติตาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง