อย่างไรเสียก็มีลูกชายสี่คนแล้ว แต่มีลูกสาวเพียงคนเดียว จะไม่เห็นเป็นแก้วตาดวงใจได้อย่างไรเล่า?
ซ่งรั่วเจินเห็นชายสองคนตรงหน้าเนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด แต่กลับถามอย่างอ่อนโยนด้วยกลัวว่าจะทำให้ตนเองตกใจกลัวก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ไหว
“ข้าไม่กลัวเจ้าค่ะ”
ซ่งหลินระบายลมหายใจออกมา ถึงตอนนี้ค่อยสังเกตเห็นฉู่จวินถิงที่มาพร้อมกับซ่งรั่วเจินจึงแสดงคารวะ “คารวะฉู่อ๋อง”
คนอื่นๆ เห็นว่าฉู่อ๋องเสด็จมาก็ล้วนแต่ประหลาดใจอย่างยิ่ง รีบแสดงคารวะอย่างนอบน้อม “คารวะฉู่อ๋อง!”
“คราวนี้ลำบากแม่ทัพซ่งและทหารกล้าทุกท่านแล้ว”
ฉู่จวินถิงมองปราดเดียวก็จำฉีอู่กับหร่วนเฉิงได้ คิดถึงข่าวคราวที่ส่งกลับมาก่อนหน้านี้ หลังจากที่แม่ทัพซ่งเป็นตายไม่แน่ชัด ทหารกล้าข้างกายหลายคนก็ไม่ได้กลับเมืองหลวง
พวกเขาไม่รับกระทั่งการปูนบำเหน็จจากการรบ เพื่อไปตามหาแม่ทัพซ่งที่หายสาบสูญ
เป็นต้องเห็นคน ตายต้องพบศพ
บัดนี้ พวกเขาอยู่กับแม่ทัพซ่งจริงดังคาด อาศัยเพียงน้ำมิตรตรงนี้ก็เพียงพอให้คนนับถือเลื่อมใสแล้ว
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังพบคนอีกหลายคนที่ทุกคนเข้าใจว่าสิ้นชีวิตในสมรภูมิไปแล้ว พวกเขายังไม่ตาย ทุกคนล้วนอยู่ที่นี่!
“ท่านอ๋อง มีหลายคนหนีไปได้ คนของพวกกระหม่อมตามไปแล้ว ส่วนที่เหลือตายไปกว่าครึ่ง จับเป็นมาได้หลายคนพ่ะย่ะค่ะ” อวิ๋นหยางกลับมารายงาน
พวกซ่งหลินเห็นพวกอวิ๋นหยาง แม้จำนวนคนที่มาไม่ถือว่ามาก ทว่าแต่ละคนล้วนมีฝีมือ ความสามารถในการรบแข็งแกร่ง ชั่วพริบตาเดียวก็จัดการจนฝ่ายตรงข้ามแตกกระเจิง
แต่จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าเหตุใดฉู่อ๋องกับลูกชายหญิงสองคนนี้ของตนเองจึงมาปรากฏตัวอยู่ตรงนี้ได้?
“ท่านอ๋อง หัวหน้าฝ่ายตรงข้ามก็อยู่ในป่าบริเวณใกล้ๆ นี้ อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกล จะต้องใช้โอกาสนี้จับกุมคนไว้ให้ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง