ซุนซวี่ได้ยินดังนั้น ก็เกาศีรษะอย่างเก้อเขิน “ท่านอย่าล้อข้าเล่นเลย แต่เสี่ยวหงจริงใจต่อข้า นางจะต้องรอข้ากลับไปเป็นแน่”
ซ่งรั่วเจินเพิ่งจะได้ยินบิดาชมเชยซุนซวี่มาเช่นกัน นางหันสายตาไปมอง สีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาดขึ้นมาทันที
“แม่นางซ่ง ท่านมองข้าเช่นนี้เพราะเหตุอันใด? คงมิได้มีเรื่องไม่ดีหรอกใช่หรือไม่?”
ก่อนหน้านี้ ซุนซวี่เห็นซ่งรั่วเจินมอบเครื่องรางนำโชคกองหนึ่งให้แก่ฉู่อ๋อง อีกทั้งยังได้ยินซ่งจืออวี้กล่าวว่านางเชี่ยวชาญศาสตร์ลี้ลับ จึงรู้สึกชื่นชมอยู่ในใจเป็นอย่างยิ่ง
แต่ในเวลานี้ เมื่อเห็นว่านางมองตนด้วยสายตาแปลกประหลาดเป็นอย่างยิ่ง เขาก็พลันวิตกขึ้นมาทันที
“คุณชายซุน หากท่านเชื่อข้า ก็จงฟังคำเตือนของข้าสักคำเถิด หลังจากที่กลับไปแล้วจงยกเลิกการแต่งงานเสีย”
ทันทีที่คำพูดนี้ถูกกล่าวออกมา ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นต่างชะงักงันไปชั่วขณะ ดวงตาเต็มไปด้วยความตกตะลึง
“เจินเอ๋อร์ ที่เจ้าพูดหมายความว่าอย่างไร? อยู่ดี ๆ เหตุใดจึงต้องยกเลิกการแต่งงาน?”
ซุนซวี่พยักหน้ารัว ๆ “แม่นางซ่ง ท่านช่วยกล่าวให้ชัดเจนสักหน่อยได้หรือไม่? นี่มันเพราะอะไรหรือ?”
“ว่าที่ภรรยาของท่านนางนั้น ในตอนนี้ได้ตั้งครรภ์แล้ว” ซ่งรั่วเจินกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “เดิมทีข้าไม่ควรยุ่งเรื่องของผู้อื่นให้มากนัก แต่เพราะท่านเคยร่วมเป็นร่วมตายกับบิดาข้าหลายครั้ง ข้าจึงเตือนท่านสักคำ”
“จริงหรือ?” ซุนซวี่เบิกตากว้าง เขารู้สึกราวกับฟ้าผ่ากลางวันแสก ๆ
มุมหนึ่งเขารู้สึกว่านี่ต้องไม่ใช่เรื่องจริงอย่างแน่นอน อีกมุมหนึ่งก็คิดว่าแม่นางซ่งไม่จำเป็นที่จะต้องโกหกตน
ซ่งหลินมองสีหน้าบุตรสาวของตน และรู้สึกราวกับว่ายังมีเรื่องอะไรบางอย่างที่ไม่ได้กล่าวออกมา จึงกล่าวขึ้นว่า “เจินเอ๋อร์ พวกเราต่างเป็นสหายร่วมเป็นร่วมตายกันมา อีกทั้งพวกเราก็มองดูเสี่ยวซวี่เติบโตขึ้นมา มิต่างอะไรกับหลานแท้ ๆ ของสกุลเราเลย”
“หากมีปัญหาอะไรจริง ๆ เจ้าก็พูดออกมาตรง ๆ เถิด เขาเป็นชายชาตรี คงไม่ถึงกับรับไม่ได้”
หลังจากที่ซุนซวี่ได้รู้ว่าเด็กสาวรู้จักมักจี่กันมาตั้งแต่เด็กของตนตั้งครรภ์กับชายอื่น จิตใจก็ทุกข์ตรมมากพออยู่แล้ว อยู่ ๆ เมื่อได้ยินคำพูดของซ่งหลิน เขาก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ยังมีอีกงั้นหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง